ท่ามกลางโลกของอสังหาริมทรัพย์ที่แข่งขันดุเดือด และเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสร้างความแตกต่างไปพร้อมๆ กับกับการยกระดับมาตรฐานโครงการกลายเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดระดับไฮเอนด์ที่ลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณภาพ ดีไซน์ และทำเลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML คือ หนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ในประเทศไทยมายาวนานกว่า 3ทศวรรษ ฝากผลงานโครงการที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากมายโดยทุกโครงการตั้งอยู่บนทำเลคุณภาพที่นับวันจะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มพูนมากขึ้น
“กรณ์ ณรงค์เดช” ประธานคณะกรรมการบริหาร RML เปิดบ้านต้อนรับ“ฐานเศรษฐกิจ” พาชมอาคาร One City Center (OCC) โครงการเรือธงในย่านเพลินจิต ซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญ
พร้อมเปิดมุมมองและแนวคิดการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านกลยุทธ์สร้างแลนด์สเคปใหม่ที่ไม่ใช่แค่การพัฒนาโครงการ แต่ต้องเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์สอดรับกับเทรนด์โลก ที่จะดึงดูดกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ด้วยดีไซน์และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
“ไรมอน แลนด์ ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การพัฒนาอาคารเพื่ออยู่อาศัยหรือพาณิชย์เท่านั้น แต่เรามองไปไกลกว่านั้น เราต้องการสร้างแลนด์สเคปใหม่ให้กับกรุงเทพฯ และเมืองที่เราพัฒนาโครงการ”กรณ์กล่าว
หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือ อาคารสำนักงานโอซีซี (OCC) ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกระดับโลก SOM ผู้อยู่เบื้องหลังตึก Burj Khalifa ในดูไบ โดยไรมอน แลนด์ต้องการให้โครงการสร้างความแตกต่างและเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง เหมือนที่มหานครหลักของโลกมีอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งกรุงเทพสามารถเติบโตไปเป็นเมืองที่สำคัญของโลก และต้องการให้กรุงเทพฯมีแลนด์มาร์กเช่นเดียวกัน
กรณ์ยังได้กล่าวกล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดว่า ยังคงเชื่อในประสบการณ์และความเข้าใจตลาดจะเป็นกุญแจสำคัญ แม้หลายคนมองว่า อสังหาฯเป็นธุรกิจที่ใครก็ทำได้ แต่ในความจริงมันซับซ้อนมาก ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ การคุมต้นทุน และการบริหารโครงการให้ได้ตามเป้า
สิ่งที่ทำให้ไรมอน แลนด์ แตกต่างจากผู้พัฒนาโครงการรายอื่นคือ การเลือกทำเลที่มีศักยภาพสูง ซึ่งทำเลที่ดีเป็นสิ่งที่มั่นคง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะผันผวนแค่ไหน ที่ดินในทำเลทองก็ยังคงมีมูลค่า ซึ่งทุกโครงการของไรมอน แลนด์ เน้นทำเลที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุด
อีกทั้งปัจจุบัน Sustainability หรือ ความยั่งยืนกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มไฮเอนด์ ที่พวกเขามองหาที่อยู่อาศัยที่ไม่เพียงสวยงาม แต่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และมีระบบหมุนเวียนอากาศที่ดี
ขณะที่พฤติกรรมลูกค้ายังเปลี่ยนแปลงไป โดยไรมอน แลนด์ ได้แบ่งเป็นสองกลุ่มหลัก กลุ่มแรกคือ เศรษฐีเก่าที่มองหาการลงทุนระยะยาว และกลุ่มที่สองคือเศรษฐีรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับอารมณ์และดีไซน์ ฟังก์ชัน และความสะดวกสบาย จึงต้องพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ทั้งสองกลุ่ม
“ไรมอน แลนด์มีฐานลูกค้าเดิมที่เหนียวแน่น ซึ่งลูกค้ากว่า 50% เป็นกลุ่มที่มาซื้อซ้ำ ขณะเดียวกันก็ต้องหาลูกค้าใหม่ ๆ ซึ่งการพัฒนาโครงการที่มีเอกลักษณ์และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งสำคัญ”
หนึ่งในตัวอย่างของกลยุทธ์นี้คือ การพัฒนาโครงการที่เป็น pet-friendly รองรับกลุ่มลูกค้าที่เลี้ยงสัตว์ ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป บางคนอาจไม่มีลูก แต่เลี้ยงสัตว์เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ไรมอน แลนด์ จึงต้องออกแบบพื้นที่ที่รองรับไลฟ์สไตล์เช่นนี้
นอกจากการแข่งขันที่ดุเดือดแล้ว ความท้าทายสำคัญของธุรกิจอสังหาฯ ในปัจจุบันคือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อาทิ ค่าก่อสร้าง ค่าที่ดิน สูงขึ้นตลอดเวลา การบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุด การวางแผนโครงการให้แม่นยำตั้งแต่ต้นเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมต้นทุน
อย่างไรก็ตามมองว่า ตลาดอสังหาฯไทยยังคงมีโอกาสเติบโต เพราะที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสี่ คนยังต้องการที่อยู่อาศัย แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องจับให้ถูกตลาด ถูกกลุ่มเป้าหมาย และเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า
แม้ว่าปัจจัยเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ย มาตรการรัฐ จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอสังหาฯ แต่ไรมอน แลนด์ เน้นจับตลาดไฮเอนด์ ซึ่งได้รับผลกระทบน้อยกว่าตลาดอื่น แต่หากนโยบายรัฐมีการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ ก็จะเป็นผลดีต่อภาพรวมของอุตสาหกรรม
“ทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ เราต้องมองให้ออกและลงมือทำในสิ่งที่เราเชื่อ การขายโครงการอสังหาฯ ไม่ใช่แค่ขายตึก แต่คือการขายวิสัยทัศน์และไลฟ์สไตล์ เราเชื่อว่าไรมอน แลนด์ สามารถเป็นผู้สร้างแลนด์สเคปใหม่ให้กับประเทศไทย และนำอสังหาฯ ไทยไปสู่เวทีโลกได้” กรณ์สรุป
แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แต่การพัฒนาโครงการที่มีเอกลักษณ์และมูลค่าในระยะยาวยังคงเป็นหัวใจสำคัญ การสร้างแลนด์สเคปใหม่ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนภาพลักษณ์เมือง แต่คือ การตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่กำลังมองหาสิ่งใหม่ๆ ซึ่งยังคงเป็นหลักสำคัญของไรมอน แลนด์