เซ็นทารา ทุ่มเฉียด 2 หมื่นล้านขยายธุรกิจโรงแรมไทย-เทศ เปิด 9 โรงแรมใหม่ปีนี้

28 ก.พ. 2568 | 16:00 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2568 | 16:47 น.

เซ็นทารา ตีปีกกำไรปี 2567 พุ่ง 43% ประกาศเดินหน้าแผน 3 ปี ลงทุนเฉียด 2 หมื่นล้านบาท ลุยเปิดโรงแรมเพิ่ม 9 แห่งในปีนี้ พร้อมปรับโฉมโรงแรมแฟล็กชิป ทั้งเปิดตัวแบรนด์ใหม่เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น

เซ็นทาราตีปีกผลประกอบการ ปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์

นาย ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า ผลประกอบการดำเนินธุรกิจของเซ็นทาราในปี 2567  นับเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จ และมีการเติบโตที่สูงกว่าปีก่อนเกิดโควิดแล้ว และถือว่าเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีรายได้รวมอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท 

ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา

แต่ถ้าไม่รวมโรงแรมที่เซ็นทาราร่วมลงทุน จะมีรายได้อยู่ที่ 11,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,230 ล้านบาท (12%) เทียบปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 1,097 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43% เมื่อเทียบกับปีก่อน 

อันเป็นผลมาจากการเปิดตัวหลากหลายโปรเจกต์สำคัญที่รีโนเวทแล้วเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทารา กะรน บีช รีสอร์ท ภูเก็ต โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ พัทยา การรับรู้รายได้ของโรงแรมในญี่ปุ่นที่มีรูมเรทที่สูงและได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นสูงมาก

โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา

ทั้งล่าสุดได้เปิดให้บริการเซ็นทารา มิราจ ลากูน  มัลดีฟส์ รีสอร์ทไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และกำลังจะเปิดเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ รีสอร์ทหรู บนเกาะเดียวกันในเดือนเมษายนนี้  ซึ่งผมเชื่อว่าปี 2568 นี้ ก็จะเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน 

รวมถึงในปีที่ผ่านมาโรงแรมในกทม. กระบี่ รายได้ขยายตัวถึง 20% แซงช่วงก่อนโควิด ปี 2562 ส่วนโรงแรมในญี่ปุ่น เริ่มเปิดตัวโรงแรมเต็มปี มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 78% และมีราคาเฉลี่ยห้องพัก 30,000 เยนต่อคืน ส่วนโรงแรมที่ดูไบ เปิดตัวเมื่อปี 2564 ได้รับผลตอบรับดีต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราการเข้าพักสูงถึง 85%

ตั้งเป้าก้าวสู่ Top 100 โรงแรมโลก ปี 2570

ปัจจุบันมีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีทั้งหมด 51 แห่ง 10,182 ห้อง ตั้งเป้าขยายโรงแรมให้มีจำนวนครบ 20,000 ห้อง ในปี 2570 เพื่อผลักดันให้เซ็นทารา ก้าวสู่ Top 100 แบรนด์โรงแรมโลก จากปัจจุบันอยู่อันดับ 111

 

สำหรับในปี 2568 นี้ เรามีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้รวม 15,000 (รวมโรงแรมที่เซ็นทาราร่วมทุน) เพิ่มขึ้น 23% โดยขยายโรงแรมไปสู่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่เรายังไม่เคยไปอย่างอินโดนีเซียและเนปาล เพื่อเติบโตธุรกิจเซ็นทาราให้แข็งแกร่งในตลาดโลก และก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 100 แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกภายในปี 2570 ตามเป้าหมายที่เราวางไว้

รีแบรนด์โรงแรมหัวหิน-กระบี่ สร้างแฟล็กซ์ชิพใหม่

นายธีระยุทธ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับแผนการลงทุนใหม่ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เซ็นทารามีแผนปรับโฉมโรงแรมสำคัญอีก 2 แห่งในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ คือเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า หัวหิน จะทยอยปิดปรับปรุงพื้นที่บางส่วนเพื่อสร้างเป็นห้องพักประเภทวิลล่าสุดหรูอีก 70 หลัง 

โดยจะอยู่ภายใต้แบรนด์ เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) ผนวกเข้ากับห้องพักที่จะสร้างใหม่เพิ่มอีก 200 ห้อง ภายใต้แบรนด์เซ็นทารา ไลฟ์ (Centara Life) ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำเซ็นทารามีห้องพักกว่า 484 ห้องให้บริการภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย 

เซ็นทารา ทุ่มเฉียด 2 หมื่นล้านขยายธุรกิจโรงแรมไทย-เทศ เปิด 9 โรงแรมใหม่ปีนี้

รวมทั้งจะปิดปรับปรุงโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า กระบี่ รีแบรนด์เป็นแบรนด์ เซ็นทารา รีเซิร์ฟ (Centara Reserve) โรงแรมหรูระดับลักชัวรีแห่งที่ 2 ของโลกต่อจากเซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย ที่ได้รับการตอบรับในระดับลักชัวรีสูงมาก 

รวมถึงเราได้ซื้อที่ดินเพิ่มอีก 4 ไร่ เพื่อขยายห้องพักของเซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย เพิ่มอีก 45-50 ห้อง รวมห้องพักแบบพูลวิลล่าราว 20 ห้อง ทั้งยังจะขยายห้องพักของโรงแรมที่ดูไบ เพิ่มขึ้นรวมเป็น 800 ห้อง 

รวมถึงมองโอกาสในการเพิ่มโรงแรมในญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการอยู่ที่โอซาก้า โดยมองทำเลโตเกียว ฟุกุโอกะ ฮอกไกโด ซึ่งมองการร่วมทุนกับพันธมิตรที่เปิดโรงแรมอยู่แล้วในปัจจุบันและไม่ปิดกั้นที่จะมองหาพันธมิตรใหม่ด้วยเช่นกัน

เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นตลาดที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูงมาก ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยว 38 ล้านคนแซงประเทศไทยที่อยู่ที่ 35 ล้านคน และโรงแรมที่โอซาก้า ก็มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยและรูมเรทที่สูงมาก

เปิด 9 โรงแรมใหม่ ปี 2568

อีกทั้งในปีนี้เซ็นทารา เตรียมจะเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ 9 แห่งในปีนี้ โดยเป็นโรงแรมที่เซ็นทาราเป็นเจ้าของ 2 แห่ง และรับบริหาร 7 แห่ง โดยหลังจากที่จะเปิดให้บริการโรงแรมในกระแส อย่างเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ (ให้บริการห้องพัก 142 ห้อง) ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้แล้ว ยังมีโรงแรมในต่างประเทศอีก 4 แห่ง ต่อคิวเพื่อรอเปิดให้บริการอีกเช่นกัน 

เซ็นทารา ทุ่มเฉียด 2 หมื่นล้านขยายธุรกิจโรงแรมไทย-เทศ เปิด 9 โรงแรมใหม่ปีนี้

ไม่ว่าจะเป็น อันนะปุรณะ เมาท์เทน รีสอร์ท เนปาล และโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) อีกหนึ่งแห่งบนเกาะบาหลี ที่จะกลายมาเป็นรีสอร์ทแรกภายใต้เครือเซ็นทาราในประเทศเนปาลและอินโดนีเซีย 

รวมถึงโรงแรมใหม่อีก 2 แห่งในเวียดนาม ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา และเรสซิเดนซ์ วังดอน และคริสตัล ฮอลิเดย์ ฮาร์เบอร์ วังดอน ที่เมื่อรวมกันแล้วจะมีห้องพักให้บริการทั้งสิ้นถึง 977 ห้อง ส่วนโรงแรมในไทย เช่น  เกาะพีพี, เกาะสมุย,ราชบุรี

นอกจากนี้เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เซ็นทาราได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่อีกแบรนด์ คือ เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) แบรนด์ใหม่ล่าสุดในเครือ ที่นำเสนอโรงแรมที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตนอย่างแตกต่าง ผ่านดีไซน์ มนต์เสน่ห์ท้องถิ่น และประสบการณ์เข้าพักอันน่าประทับใจ ที่ยังคงการให้บริการในแบบ DNA ของเซ็นทารา

โดยปัจจุบันมีโรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ทั้งหมด 3 โรงแรม คือ มัชชาฟูชิ ไอส์แลนด์ รีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์, รุกข์ คีรี เขาใหญ่ และวารีวาน่า รีสอร์ท เกาะพะงัน ซึ่งเซ็นทารามีแผนจะขยายโรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ 

กางแผน 3 ปี ลงทุนเฉียด 2 หมื่นล้าน

ด้านนายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และ รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา แผนการลงทุนของเซ็นทารา ในช่วง 3 ปีนี้ อยู่ที่ 19,900 ล้านบาท โดยเป็นตั้งงบไว้ราว 4,000 ล้านบาท ในการมองหาโรงแรมเพิ่มเข้าพอร์ตโฟลิโอ ส่วนอีก 15,000-16,000 ล้านบาท จะเป็นการขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรม ราว 11,100-12,200 ล้านบาท และร้านอาหารราว 3,300 ล้านบาท

เฉพาะการลงทุนในปีนี้จะลงทุนอยู่ที่ราว 8,000 ล้านบาท ทั้ง การเปิดโรงแรมใหม่ และปรับปรุงโรงแรมเดิม และการขยายสาขาของร้านอาหาร

เซ็นทารา ทุ่มเฉียด 2 หมื่นล้านขยายธุรกิจโรงแรมไทย-เทศ เปิด 9 โรงแรมใหม่ปีนี้

การลงทุนขยายเพิ่มเติม หลักๆ โครงการขยายห้องพักโรงแรมที่ดูไบ ร่วมกับผู้ร่วมทุน ซึ่งได้ซื้อที่ดินเพิ่ม 14 ไร่ ขยายห้องพักเป็น 600 ห้อง จากเดิม 200 ห้อง การลงทุนโดยรวมอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท แล้วเสร็จปี 2570-2571

การซื้อที่ดินสมุย โดยซื้อที่ดินเพิ่มประมาณ 4 ไร่  เพื่อขยายห้องพักของเซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย ค่า ซื้อที่ดิน 550-600 ล้านบาท ก่อสร้าง 500 ล้านบาท โดยวางสัดส่วน 70% เพิ่มเป็นวิลล่า 40-50 หลัง (เดิมมีวิลล่า 3 หลัง) และที่เหลืออีก 30% จะเป็นห้องพักโรงแรม คาดเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ แล้วเสร็จปี 2570

ขณะที่การปรับปรุงห้องพักที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ หัวหิน และสร้างโรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์เพิ่มอีก 1 แห่งในพื้นที่เดียวกัน 200 ห้อง ใช้งบลงทุน 2,500 ล้านบาท แล้วเสร็จกลางปี 2570

การรีแบรนด์โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า กระบี่ รีแบรนด์เป็นแบรนด์ เซ็นทารา รีเซิร์ฟกระบี่ ลงทุน  1,600 ล้านบาท แล้วเสร็จปี  2027 คาดว่าหลังปรับปรุงแล้วเสร็จจะปรับราคาเพิ่มขึ้นได้อีกจากเดิมมีราคาเฉลี่ยห้องพัก 7,000 บาท/คืน เมื่อรีแบรนด์คาดดันราคาเฉลี่ยห้องพักเป็น 17,000-18,000 บาท/คืน 

อย่างไรก็ตามเซ็นทารา มีพอร์ตฯ โรงแรมรวม 90 แห่ง แบ่งเป็น โรงแรมที่เปิดบริการแล้ว 51 แห่ง จำนวน 11,082 ห้อง และโรงแรมที่อยู่ระหว่างเซ็นสัญญาและพัฒนาโครงการ 8,932 ห้อง