คอปเปอร์ฯ ปรับกลยุทธ์ เพิ่มเมนู-อัดรีวิว ดันยอดขายแตะพันล้าน

19 มี.ค. 2568 | 17:17 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มี.ค. 2568 | 18:31 น.

คอปเปอร์ บุฟเฟต์ ปรับกลยุทธ์ เพิ่มเมนู-อัดรีวิว เจาะกลุ่มชาวต่างชาติ พร้อมขยายธุรกิจ Merchandise และ Catering เพื่อดันยอดขายแตะพันล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกร ระบุบว่า ในปี 2568 คาดว่าตลาดร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Restaurants) จะเติบโต 2.9% จากปี 2567 มีมูลค่า 213,000 ล้านบาท โดยร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์ยังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคที่มองเรื่องความคุ้มค่าและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป

นางสาวเกษมสันต์ สัตยารักษ์ รองประธานบริหาร คอปเปอร์ บียอนด์ บุฟเฟต์ (Copper Beyond Buffet) กล่าวว่า ภายในปี 2568 จะมุ่งเน้นการบริหารสองสาขาหลักที่มีอยู่ ได้แก่ เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า (The Sense Pinklao) และ เกษร อัมรินทร์ (Gaysorn Amarin)  

นางสาวเกษมสันต์ สัตยารักษ์

โดยตั้งเป้ายอดขายรวมแตะ 1,000 ล้านบาท และรองรับลูกค้าให้ได้ 5 แสนคนต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่อยู่ที่ 4.8 แสนคน จากทั้งสองสาขาหลัก โดยสาขาเกษร อัมรินทร์ที่เปิดตัวในเดือนเมษายน 2567 มีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าสาขาแรก เนื่องจากอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง ใกล้ BTS และมีลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากธุรกิจครอบครัว สู่การเป็นแบรนด์ F&B ระดับพรีเมียม

เดิมที คอปเปอร์ บียอนด์ บุฟเฟต์ ถูกวางให้เป็นร้านอาหารที่ช่วยดึงทราฟฟิกเข้าสู่ศูนย์การค้า เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า แต่เมื่อแบรนด์เติบโตขึ้นและได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงตัดสินใจขยายสาขาที่สองที่ เกษร อัมรินทร์ นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจเพิ่มเติม อาทิ

  • Merchandise (สินค้าแบรนด์คอปเปอร์)
  • Catering (บริการจัดเลี้ยงและอาหารกล่อง)
  • การขยายเมนูจาก Hero Product เช่น ซุปเห็ด และก๋วยเตี๋ยวเรือ

นางสาวเกษมสันต์ สัตยารักษ์

ปัจจุบันมีศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์มากกว่า 20 แห่ง ติดต่อขอให้เปิดสาขาใหม่ แต่บริษัทยังรอดูจังหวะและทำเลที่เหมาะสม โดยหากเปิดสาขาที่ 3 จะพิจารณาพื้นที่ฝั่งกรุงเทพฯ เป็นหลัก พร้อมพื้นที่ราว 1,200 ตารางเมตร

ฐานลูกค้าขยายตัว ต่างชาติเติบโต 40%

ปัจจุบันคอปเปอร์ฯ มีฐานลูกค้าต่างชาติที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสาขาเกษร อัมรินทร์ ซึ่งมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติสูงถึง 40% ขณะที่ลูกค้าชาวไทยคิดเป็น 60% สำหรับสาขาเดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นสาขาแรก มีฐานลูกค้าหลักเป็นคนไทย โดยมีอัตราส่วนลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ 25% และลูกค้าคนไทย 75%

อย่างไรก็ตามคาดว่าแนวโน้มการเติบโตของลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจาก ฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไต้หวัน และจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีศักยภาพสูง นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา คอปเปอร์ฯ มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเดิมที่มีลูกค้าต่อเดือน10,000-15,000 คน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 คนต่อเดือน

ซึ่งเป็นผลมาจากการตลาดที่แข็งแกร่ง การขยายตัวของสาขาสอง และความนิยมของร้านที่เพิ่มขึ้นจากกระแสนักรีวิว “อินฟลูเอนเซอร์” มีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสให้กับร้าน โดยมีทั้งอินฟลูเอนเซอร์ไทยและต่างชาติที่มาทำรีวิว ซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้าจากหลากหลายประเทศให้เข้ามา

แนวโน้มขยายฐานลูกค้าต่างชาติในอนาคต

หนึ่งในกลยุทธ์ของ คอปเปอร์ฯ คือการเพิ่มฐานลูกค้าต่างชาติให้มากขึ้น โดยใช้จุดแข็งของร้านที่มีจุดขายชัดเจนและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ

  • ชาวไทย: มักเลือกรับประทานบุฟเฟ่ต์ในโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิด วันครบรอบ หรือการฉลองโอกาสสำคัญ
  • ชาวต่างชาติ: มีแนวโน้มเข้ารับประทานบุฟเฟ่ต์ในวันธรรมดามากกว่า ทำให้ช่วยเติมเต็มยอดขายของร้านในช่วงที่ลูกค้าคนไทยเข้ามาใช้บริการน้อย

การที่ลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว ช่วยให้ร้านสามารถรักษาอัตราการจองได้อย่างต่อเนื่อง และลดความผันผวนของยอดขายในแต่ละวัน

คอปเปอร์ฯ ปรับกลยุทธ์ เพิ่มเมนู-อัดรีวิว ดันยอดขายแตะพันล้าน

นอกจากนี้บริษัทยังคงศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายไปยังต่างประเทศ โดยพิจารณา วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และ ต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบันสนใจตลาดในสิงคโปร์แต่ยังติดปัญหาเรื่องต้นทุนค่าเช่าและวัตถุดิบ

ปัจจุบันต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นกว่า 50% แต่บริหารต้นทุนผ่านการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล เผื่อลดทุนทุนในบางส่วนลงได้  อีกทั้งบริษัยังสร้างความแตกต่างในตลาดผ่านการเพิ่มเมนูใหม่ และการจับมือกับแบรนด์อื่นๆ

กลยุทธ์ขยายตลาดผ่านพันธมิตรแบรนด์อาหารชั้นนำ

คอปเปอร์ฯ มองว่าการขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีพันธมิตรด้านวัตถุดิบ ที่แข็งแกร่ง จึงได้จับมือกับ Betagro, Q-Fed, Foodviva และ S-Pure รวมถึงแพลตฟอร์มจองร้านอาหาร Hungry Hub ที่ช่วยขยายฐานลูกค้าต่างชาติให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้คอลแลบกับ “สก๊อต รังนกแท้” และ “ชาตรามือ” ซึ่งเป็นแบรนด์ไทยที่มีฐานลูกค้าทั่วโลก เพื่อช่วยยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มโอกาสทางการตลาด สำหรับผลประกอบการ ปี 2567 ยอดขายรวม 800 ล้านบาท กำไร 10% จากรายได้รวมทั้งหมด