KEY
POINTS
ต้นปี 2568 มานี้ สถานการณ์ค่าครองชีพของคนไทยยังคงน่ากังวล เมื่อสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการทยอยปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน โดยมีปัจจัยหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งจากราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าแรง และวัตถุดิบ
บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นผู้นำตลาด ผงชูรสของประเทศไทยกับ แบรนด์ "อายิ ได้ปรับขึ้นราคา ผงชูรส ขึ้น 4% จำนวน 4 ไซส์ ประกอบด้วย 250 กรัม , 500 กรัม , 1 กิโลกรัม และ 3 กิโลกรัม ตามต้นทุนที่สูงขึ้น มีผลตั้งปต่เดือนกรกฎาคม ปี 2567 แล้ววันนี้
สำหรับการปรับขึ้นราคาในครั้งนี้ เป็นการปรับในรอบกว่า 2 ปี โดยในครั้งก่อนได้ปรับราคาไปแล้ว 10% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ภาพรวมในปัจจุบัน อายิโนะโมะโต๊ะ เป็นผู้นำตลาดผงชูรส ของประเทศไทย ที่ครองส่วนแบ่งการตลาด 93%
กาแฟผง-กาแฟพร้อมดื่ม หลังราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกปรับราคาสูงขึ้น จ่อขึ้นราคาเฉลี่ยกระป๋องละ 2 บาท กระทบชนชั้นแรงงาน ด้านร้านกาแฟรายย่อยแบกต้นทุนสูงลิ่ว ขึ้นราคาไม่ได้เหตุคู่แข่งสูง
นายสมชาย พรรัตนเจริญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า ตลาดกาแฟผง-กาแฟพร้อมดื่ม ยักษ์ใหญ่จ่อข้นราคาเกิดจากปัญญาต้นน้ำอย่างต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงปัญญากลางน้ำปลายน้ำ อย่างต้นทุนแฝงทั้งหลายที่สูงขึ้นทั้งการขนส่ง ค่าแรง ต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาขายปลีกเพื่อรักษาอัตรากำไร
จับตาดูหลังจากนี้ของแพงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเท่าสินค้าจะถูกเลือกซื้อน้อยลง กาแฟผง-กาแฟกระป๋อง กลุ่มลุกค้าหลักคือชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน ค่าแรงต่อวันก็ไม่เพียงพอให้ซื้อสินค้าบริโภค ส่งผลต่อภาวะสังคมเหลื่อมสูง ร้านกาแฟรายย่อยเองก็ผลกระทบทุนสูงขึ้นไม่สามารถขายในราคาสูงขึ้น เนื่องจากคู่แข่งในตลาดเยอะต้องรักษาฐานลูกค้า ผู้ประกอบการและผู้บริโภคต้องแบกรับความท้าทายรอบด้าน
เตรียมตัวให้พร้อม! น้ำหวานเข้มข้นในตำนาน "เฮลซ์บลูบอย" ประกาศปรับขึ้นราคาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป หลังแบกรับต้นทุนภาษีความหวานและวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่ไหว
การปรับขึ้นราคาครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้สินค้าประเภทเครื่องดื่มและขนมหวานอื่นๆ ต้องปรับราคาตามไปด้วย นอกจากนี้ ร้านค้ารายย่อยก็อาจได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ยังคงซบเซาในช่วงฤดูร้อนนี้
แหล่งข่าวจากร้านค้าหลายแห่งเปิดเผยว่า สินค้าในกลุ่มคลายร้อนกำลังจะทยอยปรับราคาขึ้นในเดือนเมษายนนี้ แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ผู้ประกอบการบางส่วนมองว่า นี่เป็นโอกาสที่จะปรับราคาเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน เจ้าของร้านค้าหลายรายได้เสนอให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนการค้าขายของร้านค้ารายย่อย โดยเฉพาะการลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ขายและค่าขนส่ง เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2568 ว่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่บริษัทฯ เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายที่ 5-7% และมีรายได้รวมที่ 8,700 ล้านบาท ยันตรึงราคาสินค้า แม้ต้นทุนจากภาษีความหวานพุ่งปีละ 120-160 ล้านบาท
“ตอนนี้บริษัทเรายังไม่อยากขึ้นราคาสินค้า เพราะเข้าใจว่าผู้บริโภคก็ลำบากเหมือนกัน เราเลยจะพยายามบริหารจัดการต้นทุนให้ดีที่สุดก่อน เพื่อรักษาผลกำไรเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มีแผนที่จะเพิ่มรายได้จากสินค้าใหม่ ๆ เช่น น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล หรือเครื่องดื่มไม่อัดลมอื่น ๆ ด้วยอย่างไรก็ตาม ถ้าในอนาคตต้นทุนมันสูงขึ้นจนรับไม่ไหวจริง ๆ เราก็อาจจะต้องปรับราคาขึ้นบ้าง แต่จะพยายามให้น้อยที่สุด"
กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์เงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ปรับตัวสูงขึ้น 1.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด (ผักและผลไม้) น้ำมันดีเซล และค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้น
กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกของปี 2568 จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 1.1-1.2% โดยยังคงเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีไว้ที่ 0.3-1.3% (ค่ากลาง 0.8%) ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
สำหรับนโยบายทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ (ทรัมป์ 2.0) ที่จะมีการประกาศหลังวันที่ 1 เมษายน 2568 นั้น กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย แต่จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป