เถ้าแก่น้อย ลุย 'Healthy Snack' ตั้งเป้า 100 ล้าน บุกอาเซียน

บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดตัว "WoW Nut by Taokaenoi" ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพจาก ถั่วลายเสือคั่ว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของแม่ฮ่องสอนที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI (Geographical Indication) หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่การันตีคุณภาพและเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแหล่งเพาะปลูกที่ดีที่สุดในไทย

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เถ้าแก่น้อย กล่าวว่า แคมเปญนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ เถ้าแก่น้อย ในการขยายธุรกิจสู่ตลาด Healthy Snack ซึ่งได้รับความนิยมสูงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคหลังโควิด-19 ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ สุขภาพและโภชนาการ มากขึ้น

"WoW Nut by Taokaenoi"มีให้เลือก 2 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล และ เกลือชมพู วางจำหน่ายในขนาด 25 กรัม และ 55 กรัม นอกจากเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพแล้ว WoW Nut ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ "GO BROAD" ของเถ้าแก่น้อย ที่มุ่งเน้นการ ขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นอกเหนือจากสาหร่าย และเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับแบรนด์

"WoW Nut" กับแนวคิด ESG: ธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับชุมชน

แนวคิดของ WoW Nut ไม่ได้เป็นเพียงแค่ขนมขบเคี้ยวใหม่ในตลาด แต่เป็น โมเดลธุรกิจที่สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรในแม่ฮ่องสอน

"จุดเริ่มต้นของ WoW Nut เกิดขึ้นเมื่อเถ้าแก่น้อยได้ลงพื้นที่ศึกษาพืชเศรษฐกิจของแม่ฮ่องสอน และพบว่าถั่วลายเสือเป็นสินค้าคุณภาพสูงที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม แต่เกษตรกรยังขาดช่องทางการตลาดและการสนับสนุนที่เพียงพอ จึงเกิดเป็นความร่วมมือครั้งนี้ขึ้น"

ปัจจุบัน เถ้าแก่น้อยได้ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขยายพื้นที่เพาะปลูกถั่วลายเสือกว่า 200 ไร่ และรับซื้อผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม เพื่อลดความเสี่ยงของเกษตรกร นอกจากนี้ยังมีแผนส่งเสริมการปลูกที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยร่วมมือกับกรมป่าไม้ ลดการเผาป่า และ ใช้พื้นที่เกษตรแบบยั่งยืน

เถ้าแก่น้อยยังได้ ลงทุนด้าน R&D (Research and Development) นานกว่า 1 ปี เพื่อพัฒนาสูตรการคั่วที่คงรสชาติดั้งเดิม ไม่ผ่านการทอด ไม่มีคอเลสเตอรอล และไม่มีสารกันเสีย ทำให้เป็น Healthy Snack ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

ตลาดถั่วลายเสือกำลังมาแรง ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านในปี 2568

จากข้อมูลตลาดขนมขบเคี้ยว พบว่า ถั่วเป็น 1 ใน 3 หมวดสินค้าที่เติบโตเร็วที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพ

เถ้าแก่น้อยจึงวางกลยุทธ์ "Everywhere Every Moment" เพื่อทำให้ WoW Nut เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม ผ่านช่องทางจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาทในปี 2568 ส่วนกลยุทธ์หลักของ WoW Nut ได้แก่

• ขยายตลาดในประเทศ ผ่านช่องทางค้าปลีกชั้นนำ และแพลตฟอร์มออนไลน์
• บุกตลาดอาเซียนและจีน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของเถ้าแก่น้อย
• ขยายพาร์ทเนอร์ร้านค้าและโมเดิร์นเทรด เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภค

"WoW Nut" สร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกรแม่ฮ่องสอน

นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การร่วมมือกับ เถ้าแก่น้อย ช่วยให้เกษตรกรเห็นศักยภาพของถั่วลายเสือมากขึ้น จำนวนเกษตรกรที่ปลูกเพิ่มจาก 88 ราย เป็น 207 ราย ภายในเวลาไม่กี่ปี

เถ้าแก่น้อยยังช่วย ยกระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2567 พบว่า รายได้ของวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำบ่อสะเป่าพุ่งขึ้นถึง 197% ซึ่งรายได้เฉลี่ยของสมาชิกกลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 164,755 บาทต่อคน สูงกว่ารายได้เฉลี่ยของประชากรแม่ฮ่องสอนที่ 81,182 บาทต่อปี

นอกจากนี้ การปลูกถั่วลายเสือยังช่วยลดปัญหาการเผาทำลายป่า เพราะสามารถใช้ลำต้นและเปลือกถั่วในการทำ ปุ๋ยชีวภาพ อาหารสัตว์ และบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก

GI สัญลักษณ์ที่การันตีคุณภาพ "WoW Nut"

นางกิติยาพร สาธุเสน ผู้อำนวยการกองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ความสำคัญของ เครื่องหมาย GI ว่าเป็น ตรารับรองคุณภาพระดับสากล

WoW Nut เป็น ผลิตภัณฑ์แรกของไทย ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ตรา GI ที่ออกแบบพิเศษ โดยอนุญาตให้ นำวัตถุดิบจากแม่ฮ่องสอนไปแปรรูปในโรงงานที่ได้มาตรฐานนอกพื้นที่ แต่ยังคงคุณภาพระดับ GI เมื่อเห็นโลโก้นี้ ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า WoW Nut คือถั่วลายเสือคั่วแท้ 100% จากแหล่งเพาะปลูก GI แท้