“แม็คกรุ๊ป” เปิดยอดขาย 2 พันล้าน เดินหน้าธุรกิจปี 68 ขยายตัวไปต่างประเทศ

06 มี.ค. 2568 | 13:34 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มี.ค. 2568 | 15:12 น.

“แม็คกรุ๊ป” มั่นใจครึ่งหลังปีบัญชี 2568 เติบโตทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เผยกำเงินสดในมือกว่า 1.8 พันล้านบาท เตรียมขยายการลงทุนเพิ่มการเติบโต-กางแผนขยายตัวไปต่างประเทศ

นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC กล่าวว่า แม็คกรุ๊ป เป็นองค์กรธุรกิจค้าปลีกประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” มีผลประกอบการงวดงวด 6 เดือนแรกปีบัญชี 2568 (เริ่มต้นนับเดือน 7 ปี 2567) ด้วยกำไรสุทธิ 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 412 ล้านบาท โดยอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 19.6% เมื่อเทียบงวดเดียวกัน 18.6% 

โดยอัตรากำไรสุทธิที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลจากยอดขายที่เติบโตขึ้น บริษัทบริหารต้นทุนการขายและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย MC ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ได้ดีต่อเนื่อง โดยงวดครึ่งปีแรกปีบัญชี 2568 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 65.1% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 64.8%
 

“ในงวดไตรมาส 2 ของปีบัญชี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 1,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เป็นผลจากการเติบโตต่อเนื่องของรายได้จากช่องทางขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ ทั้งสิ้น 212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83 ล้านบาทหรือ 63.9% ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปีบัญชี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,178 ล้านบาท ลดลง 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกำลังซื้อในช่องทางออฟไลน์ที่ ลดลงแต่มีรายได้จากช่องทางออนไลน์เติบโตดีมาก ส่วนงวดครึ่งปีมีรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ 337 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 108 ล้านบาทหรือ 47.3%”

“แม็คกรุ๊ป” เปิดยอดขาย 2 พันล้าน เดินหน้าธุรกิจปี 68 ขยายตัวไปต่างประเทศ

จากผลดำเนินงานและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสำหรับผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีบัญชี 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเกือบ100 % ของกำไรสุทธิ และสูงกว่านโยบายที่จะจ่ายไม่น้อยกว่า 40% อีกทั้ง งวดครึ่งแรกปีนี้บริษัทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่จ่ายหุ้นละ 0.50 บาท โดยได้ขึ้นเครื่องหมายไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ก.พ 2568 ที่ผ่านมาและจะจ่ายเงินในวันที่ 13 มี.ค 2568 นี้

นายเจมส์ ริชาร์ด กล่าวว่า ในปี 2568 แม็คกรุ๊ป ใช้ประสบการณ์และทรัพยากรจากรากฐานการทำธุรกิจที่ยาวนานกว่า 50 ปี รวมทั้งโรงงานผลิตสินค้าที่มีความชำนาญ และศูนย์กระจายสินค้าของตัวเอง เดินหน้าแผนการทำธุรกิจปีหลังปีบัญชี 2568 โดยมีเป้าหมายด้านรายได้จากยอดขาย กำไร และการเติบโตด้วยเลขสองหลักในทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ศึกษาแผนพัฒนาสำหรับช่องทางอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายช่องทางไปยังต่างประเทศ การควบรวมกิจการ ที่มีความพร้อมดำเนินการได้ทันทีเมื่อสบโอกาส ด้วยมีเงินสดในมือกว่า 1,896 ล้านบาท และเพื่อให้แผนงานของบริษัทบรรลุเป้าหมาย “แม็คกรุ๊ป” ยังคงมีแผนลงทุนขยายร้านค้าปลีกของตัวเอง และปรับปรุงจุดขายเดิมและปิดจุดขายที่ทำกำไรต่ำ โดยมีเป้าหมายเปิด 15 จุดขายในปีบัญชีนี้ ขณะที่ช่องทางขายออนไลน์ก็ได้พัฒนาเว็ปไซต์ รวมถึงทั้งความร่วมมือกับ TIKTOK ล่าสุด ได้เปิดพื้นที่ไลฝ์สดสำหรับการขายสินค้าแล้ว

“เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีบัญชีหลังของปี 2568 กำลังซื้อและเศรษฐกิจประเทศน่าจะมีทิศทางดีขึ้น หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินเซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ยลง 0.25% คาดว่าจะทำให้กำลังซื้อดีขึ้น รวมถึงผลจากมาตรการ E Receipt ที่ลดหย่อนได้ 5 หมื่นบาท ที่สิ้นสุดไปเมื่อปลายเดือน ก.พ ที่ผ่านมา” 

ในส่วนของการดำเนินการด้านความยั่งยืน บริษัทได้ทำมาต่อเนื่องและ ได้รับผลการประเมิน ใน SET ESG Ratings ปี 2567 ในระดับสูงสุด “AAA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทยังคงมุ่งมั่นจะลดการปล่อยคาร์บอนด์ผ่านการลงทุนประหยัดพลังงาน

โดยเริ่มโครงการ Solar Rooftop ที่อาการคลังสินค้าใหม่ ((Mc Fulfilment Center) และสำนักงานใหญ่แล้ว และในไตรมาสแรกปีบัญชี 2568 โดยได้นำร่องติด Solar Rooftop เพิ่มเติมที่ ที่สาขา 2 สาขา คือ Mc Outlet ปตท.มานะชัย นครปฐม และ Mc Outlet ปตท. เกียรติสมพงษ์ นครสวรรค์ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และประหยัดการใช้ไฟฟ้า ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ดีและบริษัทอยู่ระหว่างสำรวจขออนุญาตเจ้าของสถานีน้ำมันเพื่อขยาย การ ติดตั้ง Solar Rooftop ที่ McOutlet สาขาอื่นๆ ซึ่งจะดำเนินการติดตั้งเพิ่มเติมภายในปีบัญชี 2568-2569