นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยได้กล่าวถึงนโยบายรัฐบาลด้านสังคมและคุณภาพชีวิต ซึ่งเน้นแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อหลอกลวงอย่างแยบยล โดยครั้งนี้ไม่ใช่คอลเซ็นเตอร์ธรรมดา แต่หลอกว่าเป็นผู้นำต่างประเทศ และส่งเสียงที่เหมือนจริงอย่างมาก โดยมีเนื้อหาอ้างว่าตนยังไม่ได้บริจาคเงินให้กับโครงการหนึ่ง พร้อมส่งลิงก์เพื่อให้โอนเงิน
"เสียงที่ส่งมามันเหมือนจริงมากค่ะ เป็นเสียงของผู้นำต่างประเทศทักว่า ‘Good Morning Prime Minister Thailand’ ซึ่งแอดวานซ์มากจนเกือบเชื่อ"
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การหลอกลวงดังกล่าวซับซ้อนกว่าที่เคยเจอ เพราะมีการใช้คลิปเสียงผู้นำต่างประเทศที่เหมือนจริง และเชื่อมโยงกับเครือข่ายคนที่รู้จักเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
จากประสบการณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรี เล่าว่า กลุ่มมิจฉาชีพใช้วิธีโทรมาในช่วงเวลาดึก รวมถึงส่งข้อความและคลิปเสียงในตอนเช้า เพื่อโน้มน้าวให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารต่างประเทศ พร้อมทั้งใช้งานแอปพลิเคชันจากต่างประเทศแทนการใช้แอปฯ ที่คุ้นเคย เช่น Line
"อันนี้ขอเตือนประชาชนทุกคน เพราะดิฉันเองก็เกือบหลงเชื่อ โชคดีที่รู้ตัวทัน และอยากฝากกระทรวงดิจิทัลฯ เร่งตรวจสอบและป้องกัน"
นายกรัฐมนตรีได้ฝากเตือนภัยถึงประชาชนว่า ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น และอาจหลอกลวงได้ง่ายหากไม่ระวัง โดยย้ำว่าตนเองไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริจาคผ่านช่องทางดังกล่าว
"ดิฉันยืนยันว่าไม่มีการรับบริจาคหรือการเกี่ยวข้องใด ๆ และขอให้ทุกคนระมัดระวัง หากเจอการแอบอ้างชื่อเสียงของบุคคลสำคัญหรือผู้นำ"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) เข้าดูแลและตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมพัฒนาระบบป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญเสียของประชาชน
"การหลอกลวงในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น เราทุกคนต้องช่วยกันสอดส่องและป้องกันภัยเหล่านี้ เพื่อให้สังคมไทยปลอดภัยจากอาชญากรรมออนไลน์" นายกรัฐมนตรีกล่าวปิดท้าย