แบรนด์ดัง แบรนด์ดับ ‘กูลิโกะ’ วิ่งฉิว ‘ลูกเทพ’ โบกมือลา

19 มิ.ย. 2559 | 11:00 น.
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เกิดกระแสที่เรียกความสนใจจากผู้คนได้มากมาย จากการมาของสินค้าหลายชนิด จนกลายเป็น talk of the town จนกลายเป็นแบรนด์ดังในชั่วเวลาอันรวดเร็ว แต่เมื่อมี “ดัง” ก็มี “ดับ” แบรนด์ฮอทที่เคยได้รับความนิยมแบบสุดๆ ก็กลับร่วงลง

“ฐานเศรษฐกิจ” ได้รวบรวมแบรนด์ดัง-แบรนด์ดับ มานำเสนอ โดยแบรนด์แรกที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้ เพราะเป็นแบรนด์ที่ฮอทสุดๆ และเป็นกระแสแรงที่ไม่ตก จนถึงทุกวันนี้สินค้าก็ยังขาดตลาดไม่เพียงพอแก่ความต้องการรับประทานของผู้บริโภคทั่วไป แบรนด์นั้นคือ “ไอศกรีมกูลิโกะ” ซึ่งถูกยกให้เป็นแบรนด์ดัง อันดับ 1

แห่แย่งซื้อเกลี้ยงตู้แช่ “กูลิโกะ”

นับตั้งแต่กูลิโกะส่งไอศกรีม 4 แบบออกวางจำหน่าย ได้แก่ พาลิตเต้ ราคา 35 บาท ไจแอนท์ โคน ราคา 25 บาท พาแนปป์ราคา 25 บาท และเซเว่นทีน ไอซ์ราคา 20 บาท ออกวางขายตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม จนสินค้าขาดตลาด ภาพลูกค้าที่เข้าแย่งชิงไอศกรีมเมื่อถูกนำมาส่งที่ร้านโดยยังไม่ทันที่จะเอาเข้าไปในตู้แช่ มีให้เห็นผ่านโลกโซเชียลมีเดียมากมายและบ่อยครั้ง เกิดเป็นกระแสดราม่าตามหาไอศรีมกูลิโกะกันทั่วเมือง จุดจำหน่ายหลายแห่งมีเพียงตู้ที่วางเปล่า เพราะไอศกรีมถูกกวาดซื้อไปจนเกลี้ยง ขณะที่สินค้าแบรนด์อื่นที่อยู่ในตู้แช่ติดกันอัดแน่นเต็มไปด้วยสินค้า

จุดสำคัญที่ทำให้ไอศกรีมกูลิโกะได้รับความนิยม คงเป็นเพราะรสชาติและรูปแบบสินค้าที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากสินค้าในท้องตลาด โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบสินค้าญี่ปุ่น เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น และได้มีโอกาสลิ้มลองไอศกรีมกูลิโกะที่ประเทศญี่ปุ่นมาก่อนแล้ว จึงไม่พลาดที่เปิดรับสินค้าเมื่อถูกวางขายในประเทศไทย ขณะที่ราคาของสินค้าถูกกำหนดตามกลยุทธ์ทางการตลาด ที่พบว่าราคาในช่วงระหว่าง 20-40 บาท ยังมีช่องว่างให้ได้เข้ามาเล่น เนื่องจากไอศกรีมส่วนใหญ่ที่วางขายจะมีราคาต่ำกว่า 15 บาท กับราคาที่สูงกว่า 40 บาทขึ้นไป อีกกลยุทธ์สำคัญ คือการกำหนดปริมาณสินค้าที่ผลิตออกมาจำหน่ายแบบจำกัดจำนวนในแต่ละล็อต เพื่อทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการและอยากจะซื้อสินค้า รวมถึงช่องทางจำหน่ายที่กำหนดไว้เป็นบางจุดเท่านั้น ถือเป็นการทดสอบตลาดเพื่อหาความต้องการสินค้าจริงๆ

Adidas NMD rl ไม่มีไม่ได้

อีกหนึ่งกระแสที่เรียกปรากฏการณ์ความสนใจจากคนทั่วไปไม่เพียงแต่สาวกเท่านั้น หากแต่ยังลุกลามไปถึงเหล่าคนทั่วไปที่ต้องหันมาตั้งคำถามกับคนรอบข้างว่า เจ้าADIDAS NMD นั้นมีอะไรดีถึงได้เกิดกระแสฟีเวอร์เพียงชั่วข้ามคืนที่มีการประกาศสั่งจองสินค้า จนเกิดปรากฏการณ์ห้างสยามเซ็นเตอร์แตกหรือเรียกกันติดตลกว่าปรากฏการณ์ "ซอมบี้ไทยแลนด์"ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และความฮอทฮิตของเจ้ารองเท้าสนีกเกอร์ก็ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ออกมาปุ๊บ ทั้งโลกแย่งกันซื้อ

ล่าสุดกับ Adidas NMD r1และ Adidas NMD r1 Salmon Pink ที่เปิดให้จองออนไลน์ไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ก็ไม่ทำให้เสียยี่ห้อแบรนด์แต่อย่างใด สามารถสร้างยอดจองได้ถล่มทลายตั้งแต่เริ่มมีการเปิดให้จองตามจำนวนที่ต้องการ ซึ่งหากจะว่าไปแล้วกระแสรองเท้าสนีกเกอร์ในเมืองไทยหรือทั่วโลกกลายมาเป็นปรากฏการณ์สั่นสะเทือนวงการตลาดรองเท้าอย่างหนักเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา จากการที่ยักษ์ใหญ่ด้านกีฬาทั้งอดิดาส และไนกี้ ต่างหันมาให้ความสนใจประยุกต์ผสมผสานระหว่างรองเท้ากีฬากับรองเท้าสนีกเกอร์ เข้าด้วยกัน

“คองเก้น” แอ็กเซสซอรี่สุดฮอต

กระเป๋าเป็นแอ็คเซสซอรี่ชิ้นสำคัญที่ทุกคนใช้ ช่วงที่ผ่านมาเดินไปทางไหนจะเห็นบรรดาวัยรุ่น คนทำงาน และคนทั่วไปหิ้วกระเป๋าสีสันสดใสที่มีหลากหลาย ทั้งตามท้องถนนหรือแม้แต่บนโลกออนไลน์ เรียกว่าจะขึ้นรถหรือเดินเล่นตามห้าง จะต้องเห็นคนสะพายกระเป๋ายี่ห้อหนึ่ง ที่รูปหมาจิ้งจอกสีชมพูเป็นโลโก้ ซึ่งเป็นแบรนด์ ฟยัล-รา-เว่น จากประเทศสวีเดน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมจะเป็นรุ่นคองเก้น ( KanKen) ที่มีความหมาย คือ หมาจิ้งจอกแห่งขั้วโลกเหนือ ที่ตั้งขึ้นในปี 1960 โดยนาย Ake Nordin ซึ่งผลิตสินค้าออกมาใช้สำหรับกิจกรรมเอาท์ดอร์เป็นหลัก และหากจะวัดว่าแบรนด์นี้ได้รับความนิยมแค่ไหน คงต้องดูว่ามีสินค้าก็อปปี้หรือของปลอมออกมาขายมากน้อยเท่าใด ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้าก็อปปี้ของแบรนด์นี้มีอยู่เกลื่อนเมืองเลยทีเดียว จนในเว็บไซต์ต่างๆ ออกมาให้ความรู้วิธีการเลือกซื้ออย่างไหนจึงจะได้ของจริงไปใช้งาน

สาเหตุที่แบรนด์นี้ได้รับความนิยม เป็นเพราะดารา ศิลปินในประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นหลายคนใช้กระเป๋ายี่ห้อนี้ และยังเป็นสินค้าที่ขายดีในประเทศดังกล่าวด้วย ประกอบกับวัสดุที่นำมาใช้ผลิตมีความแข็งแรงคงทน แต่มีน้ำหนักเบา สีสันสวยงาม มีให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับการแต่งตัวได้หลายรูปแบบหลายสไตล์ ราคาสินค้าก็อยู่ในระดับกลางๆ หลักพันบาทเท่านั้น ทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่วัยรุ่นจะหันมาฮิตกระเป๋ายี่ห้อนี้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

Clean Food Good Taste

มาถึงกระแส Health & Beauty ที่ปลุกให้คนไทยหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น และเริ่มให้ความสนใจกับการออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ล่าสุด “อาหารคลีน” เป็น 1 ในผลิตภัณฑ์ที่กำลังฮิตสำหรับคนยุคนี้ และมีร้านอาหาร รวมถึงบุคคลทั่วไปที่มุ่งเน้นกับอาหารประเภทนี้มากขึ้น และช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีร้านอาหารคลีนฟู้ดเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยมีราคาหลากหลายตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักร้อยบาท และมีคำพูดที่ติดปากทั่วไปในตลาดขณะนี้ “กินแบบคลีนๆ”

อาหารคลีนฟู้ด คือ อาหารที่ทำการปรุงแต่งต่างๆให้น้อยที่สุด เช่น ข้าวกล้องที่ไม่ขัดสี อาหารที่ไม่ต้องทอดจนไหม้ อาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่และไม่เป็นพิษต่อร่างกาย เป็นต้น

กล้องwi-fiกับกระแสสวยตลอดเวลา

จากความนิยมการถ่ายรูปตัวเอง หรือ การเซลฟี่ เพื่อนำภาพไปโพสต์และแชร์ ในโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้กล้องถ่ายรูปพัฒนาตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพให้ภาพที่ออกมาสวยงามโดยไม่ต้องนำไปปรับแต่งในคอมพิวเตอร์ และยังเป็นการปรับตัวเพื่อสู้กับโทรศัพท์มือถือ ที่สามารถถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กล้องถ่ายรูป ซึ่งพัฒนามากินส่วนแบ่งการตลาดของกล้องถ่ายรูป จนทำให้กล้องถ่ายรูปบางรุ่นต้องหายออกไปจากตลาด เช่น กล้องคอมแพคธรรมดา เพราะด้วยคุณสมบัติของกล้องที่มาพร้อมกับโทรศัพท์ ซึ่งมีความสามารถไม่แพ้กล้องคอมแพค แถมยังใช้งานได้สะดวกกว่า มีแอพพลิเคชั่นให้แต่งรูปได้อีกสารพัด และยังแชร์รูปภาพไปยังโซเชียลมีเดียได้เพียงแค่ปลายนิ้ว กล้องคอมแพคจึงถูกลดความนิยมลง คนหันมาถ่ายรูปด้วยกล้องผ่านมือถือกันมากขึ้น

ลองหันมาดู แบรนด์ที่กระแสนิยมลดน้อยถอยลงกันบ้าง อันดับ 1 ที่หลายคนต้องพูดถึง และเป็นทอล์ก ออฟ เดอะเวิลด์เลยทีเดียว คือ ตุ๊กตาลูกเทพ

มาเร็ว ไปไว หมดยุค “ลูกเทพ”

กระแสที่เรียกความฮือฮาในสังคมไทยได้อย่างมาก คือ การที่คนไทยจำนวนมากหันมาบูชา “ตุ๊กตาลูกเทพ” เพราะด้วยความเชื่อและศรัทธา ที่ถูกส่งต่อๆ กันมา โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมที่บูชาแล้วได้โชคลาภ หรือสิ่งดีดีเข้ามาสู่ชีวิต และเกิดการบอกต่อให้คนทั่วไปได้รับรู้ ความเชื่อและความศรัทธาที่เป็นพื้นฐานของคนไทยอยู่แล้ว ทำให้ตุ๊กตาลูกเทพ กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนเชื่อถือและหามาบูชากันเป็นจำนวนมาก ราคาตุ๊กตาธรรมดาก็มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นจากหลักพันหลักหมื่น จนถึงหลักแสนบาทก็มีให้เห็น และยังเกิดผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ทำธุรกิจตุ๊กตาลูกเทพจำนวนมาก ทั้งที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์

แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ตุ๊กตาลูกเทพ ดูเหมือนจะหมดความขลังลง คนเริ่มที่จะไม่บูชาหรือนำมาเลี้ยงเหมือนแต่ก่อนแล้ว อาจจะเป็นไปได้ในหลายสาเหตุ ทั้งเรื่องของการบูชาแล้วไม่ได้เห็นผลหรือไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ หรือด้วยวิธีการบูชาที่จะต้องเลี้ยงเหมือนตุ๊กตาเป็นหนึ่งชีวิตจริงๆ หรือแม้แต่มีกระแสสังคมบางส่วนที่ออกมาในทิศทางไม่เห็นด้วยกับการบูชาตุ๊กตาลูกเทพเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือของที่ควรบูชา รวมถึงการนำตุ๊กตาลูกเทพไปในที่ต่างๆ บางสถานที่ก็ไม่อนุญาตให้นำพาตุ๊กตาลูกเทพเข้าใช้บริการ เพราะเกรงว่าจะเป็นการรบกวนลูกค้าคนอื่น

ทั้งๆ ที่กระแสฮิตก่อนหน้านี้ มีนักการตลาดฉวยจังหวะและโอกาสทางการตลาด เปิดทางต้อนรับตุ๊กตาลูกเทพ ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน รถทัวร์ หรือร้านอาหารบางแห่ง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน กระแสความนิยมในการบูชาตุ๊กตาลูกเทพจึงลดน้อยถอยลงตามลำดับ และเชื่อว่าอีกไม่นานคงจะไม่ได้มีการพูดถึง โดยเฉพาะหากมีสิ่งอื่นที่จะมาสร้างกระแสทดแทน

คิวหาย ยอดขายหด “ไทยากิ”

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ต่อคิวสุดย๊าวว.....ยาว ที่สร้างกระแสในสังคมออนไลน์ได้อย่างล้นหลามต่อจากโดนัท Krispy Kreme และ Garrett Popcorn (การ์เร็ต ป๊อปคอร์น) กับร้านขนมเบเกอรี่ชื่อดังจากญี่ปุ่น “ครัวซองต์ไทยากิ ไอซ์” และ “ไอชิ ไทยากิ” ที่มีจุดเด่นคล้ายคลึงกันนั่นคือสัญลักษณ์รูปปลาที่ทำจากแป้งโดว์ครัวซองต์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา เพราะหากเป็นสมัยก่อนการจะกินเจ้าขนมครัวซองต์รูปปลาต้องบินไกลถึงญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว จึงทำให้การเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยเรียกกระแสตอบรับได้จนกลายเป็นการต่อคิวดังภาพที่เห็น จนหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าปรากฏการณ์ฮอทฮิตดังกล่าว จะซ้ำรอยเดิมอย่างแบรนด์ร้านขนมรุ่นพี่ที่มาไวเคลมไวหรือไม่

และแล้วก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยที่ปรับเปลี่ยนรวดเร็วจากการที่มีแบรนด์ให้เลือกหลากหลาย ส่งผลให้ปรากฏการณ์ขนมครัวซองต์รูปปลาในวันนี้ไม่ได้ฮือฮาเหมือนช่วงแรกที่มีการเปิดตัว จำนวนคิวอันแสนยาวเหยียดก็เริ่มเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเดินตามรอยทางแบรนด์ดังคิวยาวในอดีต ทั้งโดนัท และป๊อปคอร์น ซึ่งในระยะยาวหากรูปการตลาดเป็นแบบนี้แล้วละก็ อนาคตคงกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นดาวดับอย่างแน่นอน

กำไลหินสีโบกมือลาจากข้อมือ

หากใครพอจำได้เมื่อต้นปี กระแสเครื่องประดับที่ฮอทฮิตติดลมบนขึ้นแซงเพชร พลอย ก็คงหนีไม่พ้น “กำไลหินสี”ที่ไม่ว่าหญิงชาย คนใดต้องมีไว้ครอบครองและมีใส่ติดบนข้อมือเกือบทุกคน ทั้งนี้หินสีที่เข้ามาตีตลาดไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับธรรมดา เพื่อหวังให้คนใส่เกิดความสวยเท่านั้น แต่กำไลหินสีเข้ามาตีตลาดไทยแบบกระจุย เนื่องจากมีหลักการตลาดโดยใช้เครื่องประดับประกอบกับความเชื่อของคนไทย ลักษณะคล้ายของขลังที่คนต้องมีไว้ติดตัว

สังเกตจากคนใกล้ตัว รวมถึงดาราที่พากันฮิตซื้อใส่ โฆษณากันเป็นว่าเล่นบางคนใส่เส้นเดียว บางคนใส่เป็นแฟชั่น 3-4 เส้นแล้วถ่ายรูปโพสต์ลงบนออนไลน์ทั้งที่ยังไม่รู้ความหมาย ซึ่งราคาของเครื่องประดับชิ้นดังกล่าวมีราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่นบาท และมีทั้งในรูปแบบของจริงและของปลอม ขณะที่ร้านค้าขายก็ชูการตลาดคล้ายกัน คือ ความหมายของหินที่ใส่จะช่วยบรรเทาปัญหา สุขภาพ ความรัก การงาน การเงิน อื่นๆ เช่น กำไลหินสามประสาน โดยเชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ใส่สามารถปลดหนี้ พิทักษ์ทรัพย์ได้ โดยเป็นการรวมกินของ 3 ชนิดเข้าไว้ด้วยกันคือ หินคยาไนต์ หินไอโอไลต์ หินเอสโซไนต์ มารวมไว้ด้วยกัน

คอลลาเจนไม่สวย ไม่ใส ไม่ซื้อ

กระแส ผิวขาว หน้าใส ยังคงเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการ เพราะมองว่าคนที่มีผิวขาวส่วนใหญ่จะดูดี มีออร่า และในช่วง 2-3 ปีก่อนที่ผ่านมาสรรพคุณของครีมบำรุงผิว และอาหารเสริมได้ชูด้านนี้กันอย่างมาก โดยเฉพาะอาหารเสริมที่เกี่ยวกับ “คอลลาเจน” ที่คนทานเข้าไปแล้วเชื่อว่าจะมีผิวขาว ใส เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น อื่นๆ นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาดารา เซเลปยังได้หันมาทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านนี้ รวมถึงรีวิวจำนวนมาก

มารู้จักกับคอลลาเจนกันดีกว่า คอลลาเจนทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ทุกๆเซลล์ในร่างกายไว้ด้วยกัน และเมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนจะยิ่งลดหายไปตามวัย โดยอาหารที่สามารถช่วยเพิ่มคอลลาเจนได้ อาทิ หอยนางรม เมล็ดข้าวสาลี สาหร่ายทะเล เห็ด ถั่วเหลือง อื่นๆ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้มีคอลลาเจนแบรนด์ต่างๆชูการตลาดลักษณะคล้ายกัน เช่น คอลลาเจนเกรดพรีเมี่ยมแท้ จากประเทศญี่ปุ่น ขนาด 5, 000- 1หมื่นมิลลิกรัม ที่ทานไปแล้วจะช่วยให้ผิวดูเต่งตึง กระชับ ผิวขาว มีออร่า ลดเรือนริ้วรอย เป็นต้น

ไนกี้แอร์ แผ่วปลาย

เคยเป็นอดีตลูกรักโฉมงามของสาวกผ้าใบเมืองไทยมานมนานสำหรับเจ้า“Nike Air” แม้ในช่วงปีที่ผ่านมาจะได้รับการกล่าวถึงจากสาวก ในรุ่น nike air max2015 ที่เรียกว่าสวยเตะตาโดนใจสร้างยอดขายถล่มทลายไปได้ไม่น้อย จนทำให้หลายฝ่ายออกมาตั้งตารอไนกี้แอร์ ตัวใหม่หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า nike air max2016 ว่ารูปโฉมจะงดงามเพียงใด

แต่แล้วเมื่อโฉมใหม่ของ Nike Air Max 2016 ออกมา โดยเฉพาะในรุ่น Nike Air Max BW Ultra ซึ่งถือเป็นรุ่นไฮไลท์ครบรอบ 25 ปีไนกี้ ที่เปิดให้สั่งจองในวัน AIR MAX DAY แล้ว (26 มีนาคม 2559) ที่ผ่านมา แม้กระแสตอบรับจากแฟนพันธุ์แท้จะยังดีอยู่ สำหรับแฟนและสาวกขาเวียนบางส่วนต่างออกมายอมรับกลายๆเป็นเสียงเดียวกันว่า รูปโฉมและดีไซน์ไม่โดนใจเท่าที่ควร ต่างจากรุ่นปี 2015 ที่โดนใจมากกว่าไม่สมกับที่ตั้งตารอจนบางส่วนถึงกับบอกว่า เสียยี่ห้อเจ้าแห่งตลาดรองเท้าสนีกเกอร์ไปแล้ว ทำให้กระแสในตลาดบ้านเราไม่ฟีเวอร์เหมือนเจ้า Adidas NMD ที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งในขณะนี้

ถือเป็นสีสันเล็กๆ น้อยๆ ที่เก็บมาฝาก...

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559