ด่วน 10 มีนาคม 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 3
ผ่านการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับประชาชนกลุ่มอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยคาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินได้ภายในปลายไตรมาส 2 ของปีนี้
จับตารัฐบาลเลือกกลุ่มเป้าหมายนี้เนื่องจากเป็นวัยเรียนที่สามารถนำเงินไปใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์การศึกษาที่จำเป็นได้ ส่วนกลุ่มอายุ 20-60 ปี จะมีการพิจารณาความเหมาะสมของช่วงเวลาการแจกเงินในโอกาสต่อไป โดยมีสาระสำคัญที่ถือเป็นที่จับตาของภาคเอกชนอย่าง
รัฐบาลเร่งเครื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ ปรับเงื่อนไข "เงินดิจิทัล เฟส 3" สำหรับกลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี ให้มีความยืดหยุ่นและครอบคลุมมากขึ้น โดยยกเลิกรายการสินค้าต้องห้าม (Negative List) ทั้งหมด เปิดทางให้ใช้จ่ายได้อย่างอิสระในร้านค้าหลากหลายประเภท รวมถึงร้านโชห่วย ร้านอาหารที่มีสุราและยาสูบ และสถานศึกษาที่รับชำระค่าเทอม การตัดรายการสินค้าต้องห้ามออก ทำให้เยาวชนสามารถใช้จ่ายได้สะดวกมากขึ้นนั้นขัดกับข้อกฎหมายหรือไม่? โดยเฉพาะในร้านค้าขนาดเล็กที่จะสามารถจำหน่าย สุรา-ยาสูบได้
นายธนากร คุปตจิตต์ อดีตนายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ" ถึงประเด็นการปรับเงื่อนไข "เงินดิจิทัล เฟส 3" สำหรับกลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี โดยระบุว่า การเปิดให้ใช้จ่ายในร้านอาหารที่มีสุราและยาสูบได้นั้น อาจเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจคู่กับการบริโภคอาหาร แต่ต้องคำนึงถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีด้วย
“โครงการดิจิทัลเฟส 3 สิ่งที่ต้องจับตาคือกลุ่มที่รัฐแจกเงินให้ถือเป็นกลุ่มเยาวชนที่จะนำเงินไปใช้จ่ายตามร้านค้ารายย่อย อย่างไรก็ตาม การยกเลิก Negative List อาจต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้จ่ายของเยาวชน แต่หากมองในมุมที่ช่วงไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3 เป็นช่วงเปิดภาคเรียนเงินดังกล่าวจะช่วยลดภาระของครอบครัวในแง่การจ่ายค่าเทอมและการจับจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเพื่อชะลอหนี้ครัวเรือน ”
ทั้งนี้การเปิดให้ร้านค้าถอนเงินสดได้ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และกระตุ้นการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ มีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลพิจารณามาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมสำหรับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในภาคบริการ อย่างการปลดล็อกการจำหน่ายแอลกอฮอล์ช่วง 14:00-17.00 น. ที่สามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องใช้งบประมาณ นายธนากร กล่าวทิ้งท้าย
ทางด้านนายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 3 สำหรับกลุ่มคนทั่วไป มีความคาดหวังว่าจะสามารถใช้สแกนเพื่อซื้ออาหารได้ ซึ่งจะช่วยให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านร้านค้ารายย่อยได้ถึง 10-15%
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะว่าควรปลดล็อกการใช้เงินดิจิทัลให้สามารถใช้ได้ในพื้นที่ต่าง ๆ แทนที่จะจำกัดเฉพาะในพื้นที่ที่มีบัตรประชาชน เนื่องจากมีคนจากต่างจังหวัดกว่า 50% เข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ การเปลี่ยนแปลงนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองหลวงก่อนที่จะกระจายไปยังต่างจังหวัด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ทำงานในเมืองสามารถประคองชีวิตได้ในระยะเวลาหนึ่ง และมีเงินเหลือส่งกลับไปยังครอบครัวในต่างจังหวัดได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในต่างจังหวัดได้รูปแบบหนึ่ง