เฉลิมชัย มหากิจศิริ ถอดรหัสมองวิกฤตเป็นโอกาส ตั้งสายการบินใหม่ พี 80 แอร์

09 มี.ค. 2568 | 08:07 น.
อัปเดตล่าสุด :09 มี.ค. 2568 | 08:07 น.
942

เปิดใจ เฉลิมชัย มหากิจศิริ มองวิกฤตโควิด-19 เป็นโอกาสในจัดตั้งสายการบิน พี 80 แอร์ พร้อมเช่าเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ไว้แล้ว แต่จากการออกไลเซ้นท์ล่าช้า ทำให้เสียโอกาส เหตุจากตอนนี้ตลาดเป็นของผู้เช่าให้เครื่องบินไปแล้ว ต้องมองหาเครื่องบินใหม่ในราคาที่เหมาะสม

กึ้ง เฉลิมชัย มองวิกฤตเป็นโอกาสตั้งสายการบิน พี 80 แอร์

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การตัดสินใจจัดตั้ง บริษัท พี 80 แอร์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจสายการบิน พี 80 แอร์ เป็นเพราะด้วยความที่ TTA เป็นบริษัทการลงทุน เราจึงมองหาโอกาส (opportunity) ในการลงทุนอยู่เสมอ อย่างเรื่องสายการบิน เรามีความคิดที่จะลงทุนตั้งแต่ในช่วงโควิดก็น่าจะประมาณสัก 3-4 ปี ที่แล้ว ตอนโควิดพอดี

เฉลิมชัย มหากิจศิริ

เพราะในช่วงโควิดทุกคนเห็นว่าเป็นวิกฤติ แต่ผมจะมองตรงข้ามเสมอ อะไรที่ วิกฤต คือ โอกาส ก็เลยสนใจ เพราะว่า ณ ตอนนั้นในเรื่องเกี่ยวกับสายการบินทุกคนคิดว่าเจอปัญหาจากโควิด แต่ผมคิดว่าถ้าทุกคนเจอปัญหา หมายความว่าคนที่เข้าไปใหม่ ก็จะไม่ได้มีปัญหา ก็จะเป็นการเริ่มต้นใหม่ เหมือนกับเซ็ตอัพใหม่ในธุรกิจนี้เลย

ประกอบกับทั้งเรื่องระบบการเงิน การลงทุนต่างๆ TTA น่าจะแข็งแกร่งกว่าคนที่ประสบปัญหามาในช่วงนั้น ก็เลยเป็นแนวคิดที่ว่า การเข้าสู่ธุรกิจการบิน ก็เป็นสิ่งที่น่าลงทุน

เช่าเครื่องบินมาแล้ว แต่จากการออกไลเซ้นท์ล่าช้า ทำให้เสียโอกาส

ทั้งเมื่อรวมกับเรื่องการท่องเที่ยวที่ผมมองว่าถ้าหลังจากโควิดมา ก็จะทําให้มีการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ทําให้คนต้องใช้เกี่ยวกับเรื่องเซอร์วิสต่างๆ ในเรื่องการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางรถ ทางอากาศ ทางเรือก็ต้องเพิ่มมากขึ้น สายการบินก็เป็นออฟชั่นนึงในอนาคต ก็เลยสนใจซึ่งวันนั้นที่ยื่นขอประกอบธุรกิจสายการบิน ก็ได้เซ็นสัญญาในการเช่าเครื่องบินไปแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 2 ลำ ในช่วงโควิด ซึ่งได้ราคาถูกมาก

P 80 AIR

แต่อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าความสําเร็จขึ้นอยู่กับห้วงเวลาด้วย เพราะในระยะเวลาเดียวกัน TTA ก็ขอไลเซ็นท์ในการประกอบการบิน ซึ่งก็ต้องอยู่กับหน่วยงานราชการในสมัยนั้น ตอนนั้น TTA ก็ได้เซ็นสัญญาเช่าเครื่องบินไว้แล้ว แต่ว่าเราไม่ได้สัญญาในการประกอบการบิน

เพราะว่าอาจจะเป็นเรื่องระยะเวลาในการขออาจต้องใช้ระยะเวลานาน กลายเป็นว่า TTA ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการค้าขายการเดินอากาศ (Air Operating Licence หรือAOL)ให้ประกอบกิจการการบิน ก็เลยช่วงโควิดไปแล้ว ทำให้ไม่มีเครื่องบิน

“เพราะเครื่องบินที่เช่าไว้แล้ว มีระยะเวลาจํากัด กลายเป็นว่า พอเลยระยะเวลาของโควิดไปแล้ว เครื่องบินก็ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว กลายเป็นว่าเรามีสัญญาในการประกอบการบิน แต่ไม่มีเครื่องบิน ซึ่งดีมานด์ซัพพลายก็และห้วงระหว่างเวลาซึ่งเราได้ AOL แต่ยังไม่ได้ใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (Air Operating Certificate หรือAOC) ซึ่งการจะออก AOCได้ต้องมีเครื่องบิน แต่วันนี้เราไม่มี”

หลังโควิดตลาดเช่าเครื่องบิน กลายเป็นของผู้ให้เช่า

นายเฉลิมชัย ยังกล่าวต่อว่า ณ วันนี้ ก็ถ้าไปดูของตลาดการเช่าเครื่องบิน ก็จะเป็นตลาดของผู้ให้เช่า มากกว่าของผู้เช่า แต่ถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงสมัยของโควิดก็เป็นตลาดของผู้เช่า ไม่ใช่ผู้ให้เช่า ดังนั้นตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน TTA ก็กำลังมองหาเครื่องบินอยู่ โดยต้องมองว่าถ้ามีโอกาสในการเช่าเครื่องบินได้ ในราคาที่สามารถทําได้ ซึ่งเราก็ยังมองโอกาสในการลงทุนอยู่ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า เราจะต้องหาเครื่องบินในราคาที่เหมาะสมให้ได้ก่อน

การทำธุรกิจผมมองว่าไม่มีอะไรง่าย ไม่มีอะไรยาก การมีสายการบินก็มาต่อจิ๊กซอว์ให้ TTA ได้เพราะ TTA ทําโลจิสติกส์ในเรื่องของการขนส่งสินค้าทางเรือด้วย ถ้ามีสายการบินด้วย ก็จะทําให้ครบวงจรมากขึ้น ผมก็ยังหวังว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามสายการบินเป็นการลงทุนใหม่ ซึ่งไม่ได้เป็นการลงทุนใหญ่สำหรับ TTA เพราะการดำเนินธุรกิจในช่วงแรกจะเริ่มจากการเช่าเครื่องบินก่อน เพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติการบิน

ต้องควานหาเครื่องบินอีกครั้ง ถึงออก AOC ได้

ขณะที่ในส่วนของพนักงานเราก็ได้เตรียมได้ทุกอย่างแล้ว เหลือแค่ condition ของการเช่าเครื่องบิน ซึ่งระยะแรกก็ควรจะมี 2 ลํา เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เหมือนที่เคยเช่ามาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จะบินได้ประมาณ 5 ชั่วโมง ดังนั้นเส้นทางบินเป้าหมาย ก็จะอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน โดยในทุกการลงทุน ก่อนที่เราจะไปวิ่ง ควรจะเริ่มจากค่อยๆเดินก่อน

นายเฉลิมชัย ยังกล่าวถึง ภาพรวมเศรษฐกิจในขณะนี้ด้วยว่าวันนี้ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการมีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา ก็ทำให้เกิดอิมแพ็คต่อเศรษฐกิจด้วย ผมมองว่าการเปลี่ยนแปลง ในทุกการเปลี่ยนแปลง จะเป็นการปรับเปลี่ยนตัวเองให้ได้เท่าทันกับอนาคตที่เราคาดการณ์ไว้ได้ ก็จะเป็นโอกาสสำหรับใครหลายคน

ไม่ว่าใครจะอยู่ในเซ็กเตอร์ไหน ถ้าเรามองและสามารถพัฒนาตัวเองให้ไปอยู่ในแนวทางของอนาคตได้ ก็จะเป็นโอกาสที่ดี แต่ถ้าใครมองว่าเป็นวิกฤต ทุกคนก็จะไม่เห็นโอกาสหรือหาทางออกได้ สำหรับผมทุกวิกฤตหรือทุกการเปลี่ยนแปลง คือ โอกาสในการพัฒนาตัวเองไปสู่จุดๆหนึ่งได้

สำหรับเศรษฐกิจของไทย ผมเชื่อว่ารัฐบาลที่มีประสบการณ์ในการนำพาเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ดีได้โดยรัฐบาลนี้ ผมว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะไปได้ แต่ไม่ใช่แค่รัฐบาลอย่างเดียว แต่ต้องเป็นหน่วยงานเอกชน รมถึงทุกคนที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนไปด้วยกัน

แต่ถ้าวันนี้โดยเฉพาะประเทศไทยแล้ว ยังมีความคิดยังไม่เป็นหนึ่งอยู่ หรือว่ามีความคิดหลากหลาย ถ้าในความคิดหลากหลายในการเดินทาง ถ้าแต่ละคนบอกวันนี้จะไปซ้าย บางคนบอกจะไปขวา คนนี้จะถอยหลัง คนนี้จะเดินหน้า ถามว่าทั้งประเทศไทยจะไปตรงไหน

แน่นอนก็จะหยุดอยู่ที่เดิม ผมก็หวังและเชื่อว่าว่าถ้าคนไทยทุกคนมีความคิดเป็นความเป็นไทย และอยากเดินไปข้างหน้าพร้อมๆกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ช่วยกันพัฒนา ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่มากๆ ผมไปมาแล้วทุกประเทศ ผมเชื่อว่าไม่มีที่ไหนน่าอยู่เท่ากับประเทศไทย นายเฉลิมชัย กล่าวทิ้งท้าย