ครม.สัญจร สั่งยกระดับสงขลา Cruise Tourism พัฒนาทะเลน้อย พัทลุง

นางสาวแพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการ จังหวัดพัทลุง-สงขลา ระหว่างวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งเป้าหมายยกระดับศักยภาพกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (สงขลา สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช และพัทลุง) ทุกมิติ

พร้อมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 

โดยนางสาวแพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ทั้ง  20 กระทรวง ร่วมลงพื้นที่ ณ จังหวัดพัทลุง-สงขลา ทั้งพื้นที่อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง อำเภอสิงหนคร

รวมไปถึงเมืองเก่าสงขลา ด่านศุลกากรสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจติดตามการปฏิบัติราชการที่สำคัญในหลายมิติ 

ทั้งเรื่องการฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานถนนสาธารณะ การลงทุน การเกษตรและประมง

รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ทางธรรมชาติ เพื่อตั้งเป้าพลิกฟื้นกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจภาคใต้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

รวมทั้งได้รับฟังความคิดเห็นและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (สงขลา สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช และพัทลุง) “พลิกฟื้นอ่าวไทยสู่ความยั่งยืน (Resilient and Sustainable AOTHAI)” 

สำหรับผลการประชุมครม. สัญจร ด้านการท่องเที่ยวนั้น นายกรัฐมนตรีมีมติมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง 

ขณะที่จังหวัดสงขลา หลังจากการลงพื้นที่เมืองเก่าสงขลา พร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการในพื้นที่ รัฐบาลเห็นควรยกระดับเมืองสงขลาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นทุกมิติ ผลักดันการท่องเที่ยวเรือสำราญ (Cruise Tourism) ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังใช้จ่ายสูง 

พร้อมให้บูรณาการร่วมกับกระทรวงคมนาคมเร่งศึกษาการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญ ให้มีมาตรฐานสากล และขอให้ร่วมกับท้องถิ่น พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และออกแบบจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในเมืองเก่าสงขลา อ.หาดใหญ่ หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ  โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นเจ้าภาพในการเป็นศูนย์กลางการประสานงาน 

นอกจากนี้ยังกำชับว่ารัฐบาลจะเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอัตราการเติบโตของ GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ด้วยภาคการท่องเที่ยว โดยจะเพิ่มการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง (เมืองน่าเที่ยว) แหล่งท่องเที่ยว Man-Made และเพิ่มโอกาสการลงทุนจากภาคเอกชน 

โดยเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและเพิ่มโอกาสการลงทุนจากภาคเอกชน เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลักดัน GDP ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

นายนิธี  สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า จังหวัดสงขลาเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักที่โดดเด่นด้วยการเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาคภาคใต้ตอนล่าง พร้อมต้นทุนทางวัฒนธรรม วิถีชีวิตท้องถิ่น และเสน่ห์เฉพาะตัวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว

โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ททท. จึงเดินหน้าผลักดันสงขลาให้ก้าวสู่จุดหมายปลายทางระดับโลกด้วยการใช้ทุนทางวัฒนธรรมและศักยภาพพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โดยปี 2568 นี้ ททท. รับนโยบาลรัฐบาลเตรียมปลุกการท่องเที่ยวเมืองสงขลาให้สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รับปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ด้วยโครงการ สนุกทั้งปีที่สงขลา เป็น Flagship Project สำคัญที่จะส่งมอบประสบการณ์อันสุดพิเศษในจังหวัดสงขลาแก่นักท่องเที่ยว 

ด้วยอีเวนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ Go Songkhla by Tuk Tuk พร้อมเสริมทัพด้วย โครงการ Exploring Songkhla จัด Joint Promotion ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติในประเทศไทย และกลุ่มความสนใจพิเศษ ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่หลักคืออำเภอหาดใหญ่ไปยังพื้นที่รองอื่น ๆ 

โครงการ Beyond Expectations มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวเหนือระดับกับ 3 กิจกรรมย่อย ได้แก่ แคมเปญ Go South Multiverse , กิจกรรม Collect & Go และกิจกรรม Amazing Songkhla Love Wins 

นอกจากนี้ ททท. ยังมุ่งขยายกลุ่มเป้าหมายคุณภาพ อาทิ กลุ่มเรือสำราญ, คาราวาน, Self-Drive พร้อมเร่งผลักดันการเพิ่มเส้นทางบินจากสนามบินภายในประเทศเข้าสู่สงขลา รองรับมาตรการ Ease of Traveling  อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัดสงขลา บรรลุเป้าหมายทั้งแง่ของจำนวนและรายได้เพิ่มขึ้นสูงสุด 10 % จากปี 2567