นางสาวอัญชลี ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ ห้างกรุงทองพลาซา กล่าวว่า ภาพรวมตลาดค้าส่งแฟชั่นไทย 2658 ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว กำลังซื้อในประเทศที่ยังมีแนวโน้มดี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับแฟชั่นมากขึ้น
แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกจะมีความผันผวน แต่ดีมานด์ของผู้บริโภคในอุตสาหกรรมแฟชั่นยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเสื้อผ้า “พลัสไซซ์” ที่มีการเติบโตสูงขึ้นทุกปีจากกระแส Body Positivity ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
เรามองว่าในปีนี้ ตลาดแฟชั่นค้าส่งจะมีการขยายตัวทั้งจากร้านค้าปลีกและออนไลน์ ซึ่งทำให้เราเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าของห้างให้ตอบโจทย์ผู้ค้าและนักช้อปมากขึ้น
เพื่อต่อยอดการเติบโตของตลาดและกระตุ้นกำลังซื้อ ห้างกรุงทองพลาซาได้วางกลยุทธ์ “Seasonal Shopping Campaign” ดึงดูดลูกค้าผ่านกิจกรรมที่ต่อเนื่องตลอดไตรมาสแรกและยาวไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ ตั้งแต่ เทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน วาเลนไทน์ ไปจนถึงสงกรานต์
“ช่วงต้นปีถึงซัมเมอร์เป็นไฮซีซั่นสำคัญของธุรกิจแฟชั่น กำลังซื้อมักจะสูงขึ้นจากเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ ห้างกรุงทองพลาซาจึงเน้นกลยุทธ์การจัดกิจกรรมและแคมเปญส่งเสริมการขายที่สอดรับกับแต่ละเทศกาล เช่น ตรุษจีนที่ลูกค้านิยมเสื้อผ้าสีแดง โทนมงคล วาเลนไทน์ที่เน้นโทนหวานและโรแมนติก หรือซัมเมอร์ที่เป็นช่วงเวลาของแฟชั่นสีสันสดใส”
สำหรับเทรนด์แฟชั่นวาเลนไทน์ปีนี้ นางสาวอัญชลีเผยว่า เฉดสีชมพู พาสเทล และลายดอกไม้ จะยังคงเป็นไฮไลต์หลัก นอกจากนี้แนว Romantic Chic และ Soft Feminine Look ก็กำลังมาแรง โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีดีไซน์ลูกไม้ ผ้าชีฟอง และการตกแต่งระบายที่จะช่วยสร้างลุคที่ดูหวานและโรแมนติก
“ปีนี้แฟชั่นวาเลนไทน์จะเน้นไปที่ความโรแมนติกและสดใส โทนสีพาสเทลยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยม ส่วนลูกไม้และดีไซน์ที่มีความพลิ้วไหวจะเป็นคีย์ลุคสำคัญ ทั้งเสื้อผ้าแนวหวานสำหรับสาวๆ และสไตล์มินิมอลสำหรับหนุ่มๆ”
ในด้านกลยุทธ์การตลาด ห้างกรุงทองพลาซา ได้พัฒนาแนวทางใหม่เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั้งกลุ่มร้านค้าปลีก แม่ค้าออนไลน์ และนักช้อปไทยและต่างชาติในแถบประเทศอาเซียนทั้งหมด โดยใช้ Omni-Channel Strategy เชื่อมต่อประสบการณ์การช้อปทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการสร้างกิจกรรมที่กระตุ้น Customer Engagement
“เรามุ่งเน้นการเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยสนับสนุนผู้ค้าส่งและร้านค้าให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ นอกจากนี้การสร้างกิจกรรม เช่น อีเวนต์เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ หรือกิจกรรม Influencer Marketing ก็เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสร้างการรับรู้และดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่”
สำหรับแผนธุรกิจปี ห้างกรุงทองพลาซาตั้งเป้าเติบโตที่ 10% พร้อมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Young Entrepreneurs และ Online Sellers ที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีในราคาส่ง
“เป้าหมายของเราคือการเป็นศูนย์กลางค้าส่งแฟชั่นที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ปีนี้เราวางแผนเพิ่มการสนับสนุนผู้ค้า ทั้งการอัปเดตเทรนด์แฟชั่น
การสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่แข็งแกร่งขึ้น และการจัดกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ล่าสุดห้างกรุงทองพลาซา ศูนย์ค้าส่งเสื้อผ้า “พลัสไซซ์” ได้จัดงาน “Ultimate Love” เนรมิตพื้นที่ศูนย์การค้าให้กลายเป็นดินแดนแห่งความโรแมนติก ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์
นางสาวอัญชลี กล่าวต่อว่า แรงบันดาลใจของการจัดแคมเปญ “Ultimate Love” ว่า “ห้างกรุงทองพลาซา มุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือกว่า ไม่ใช่แค่ศูนย์ค้าส่งเสื้อผ้า แต่เป็นจุดหมายของแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ งาน ‘Ultimate Love’ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนแนวคิดนี้
การจัดงานนี้ไม่เพียงกระตุ้นกำลังซื้อแต่ยังสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ห้างกรุงทองพลาซาเป็นมากกว่าสถานที่ช้อปปิ้ง เราต้องการให้ลูกค้าของเราได้สนุกกับกิจกรรมพิเศษ สัมผัสแฟชั่นเทรนด์ล่าสุด และร่วมฉลองเทศกาลแห่งความรักอย่างมีสีสัน
เรามองว่านี่เป็นโอกาสสำคัญในการสานสัมพันธ์กับลูกค้า และช่วยเสริมศักยภาพให้กับร้านค้าภายในศูนย์การค้า ด้วยกิจกรรมที่กระตุ้นการจับจ่าย เราหวังว่าทุกท่านจะได้รับความประทับใจและความทรงจำที่พิเศษกลับไปจากงาน ‘Ultimate Love’ ในปีนี้