วันนี้ (13 มกราคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แสดงความคิดเห็นถึงร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ 6 ข้อ ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่เห็นว่าหลักในการออกกฎหมายของรัฐบาล จะต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก
ทั้งนี้ต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยไปดูแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) จะมีตั้งแต่สวนสนุก และเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าไปอยู่ในนั้น
แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้น ใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการแก้ไขปัญหาการพนัน กรณีนี้แคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ ดังนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงมีความเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า
“ถ้าจะเป็น Man-made Destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้นเพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรงต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว” นายปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร เมื่อได้ข้อสรุปค่อยเสนอ ครม.ให้พิจารณาว่าจะเน้น Man-made Destination หรือจะเน้นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน
“ถ้าเน้น Man-made Destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ทขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว และมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรี มีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริง ๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอไปยัง ครม.ขอให้เอาให้ชัดก่อน และยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวาง” นายปกรณ์ ระบุ
ส่วนการผลักดันกฎหมายครั้งนี้จะขัดกับนโยบายของรัฐบาลจะถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ นายปกรณ์ ยอมรับว่า เรื่องนี้ไม่ถือว่าขัด เพราะเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อยู่ด้านใน เพียงแต่ว่าเล็กนิดเดียว แต่เป้าหมายของรัฐบาลที่จะทำ หากเป็น Man-made Destination เป็นการดึงดูดการท่องเที่ยว ก็อยู่ในนโยบายที่เห็นชัดเจน
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายกับกลุ่มเป้าหมายยังไม่ชัด จึงอยากให้ถาม ครม.ว่าจะเอาอย่างไร แล้วมาคุยกับสังคมให้ชัดก่อน ซึ่งก็ทำได้เหมือนกัน ไม่มีปัญหาอะไร หากวันนี้มีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์อะไร กฤษฎีกาจะไปร่างกฎหมายให้ตรงกับวัตถุประสงค์ตามนโยบายที่รัฐบาลต้องการ สามารถดำเนินนโยบายนี้ได้ไม่มีปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้อยู่แล้ว
ดังนั้นจึงไม่มีประเด็นปัญหาเรื่องนโยบาย เพราะจริง ๆ สภาฯ รับรู้แล้ว ว่าจะมีเรื่องในวันนี้ ถ้าหลักการและเป้าหมายชัดเจนก็เดินหน้าได้ ไม่มีประเด็นอะไรเลย