“พิชัย” ยันเดินหน้าร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ปัดใช้ท่องเที่ยวบังหน้า 

13 ม.ค. 2568 | 10:12 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2568 | 10:17 น.

“พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ และรมว.คลัง ยันเดินหน้าคลัง เดินหน้า ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร นำเสนอ ครม. 

จากกรณีกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 มกราคม 2568 นี้ เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ และมีความเห็นค้านจากทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 6 ข้อนั้น 

ล่าสุดวันนี้ (13 มกราคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกจากวาระการประชุมครม. ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ก็คงได้พูดคุยกัน หลังจากกระทรวงการคลังได้หารือ เหตุผล ความจำเป็นเป็นอย่างไร ซึ่งมีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่น 

แต่สิ่งที่ต้องไปกำกับอย่างประเทศอื่นที่มีเกมรูม หรือความสนุกสนาน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนน้อย แต่รายได้มาจากส่วนอื่นมากกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นพวกโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียง และหากสถานที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมจะเกิดการจ้างงานด้วย

นายพิชัย กล่าวว่า ในกรณีที่อาจมีหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่เห็นด้วยแล้วนั้น เชื่อว่า คงไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่ อย่างเรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทยและเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร  ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคืออยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า

ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรง ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายอย่างเป็นเรื่องของการบันเทิง และรายได้ที่มาจากคาสิโนเป็นส่วนน้อย พร้อมยกตัวอย่างห้างสรรพสินค้าหนึ่งห้าง ที่ทุกวันนี้คนไปเดินห้างไม่ได้ไปซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว เพราะในห้างสรรพสินค้ามีบริการที่หลากหลาย แต่สถานบันเทิงครบวงจร คือภาพขนาดใหญ่ ต้องดูแลองค์ประกอบให้ไปในทิศทางเดียวกันด้วย จึงต้องออกกฎหมายมากำกับดูแล 

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ของกระทรวงการคลังและกฎหมายการพนันออนไลน์ ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กำลังจะศึกษาเป็นคนละเรื่องกัน