ความคืบหน้าการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 2568 รอบใหม่ กระทรวงการคลัง เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อพิจารณาเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างภาษีของไทยทั้งระบบ รวมถึงแนวคิดการให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ (Negative Income Tax ) ด้วย โดยการปฏิรูปโครงสร้างภาษี จะต้องดูในรายละเอียดสำคัญ 2 เรื่อง
- ปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ
- เรื่องสวัสดิการทุกประเภทที่รัฐได้จ่ายให้กับประชาชน ว่าจะปรับอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์และมีความเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และสถานการณ์เศรษฐกิจมากที่สุด
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เตรียมทบทวนรายละเอียด หลักเกณฑ์ต่างๆ สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ปี 2568นั้น ภายในเดือนมกราคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อร่วมกันพิจารณาหาข้อสรุปที่ชัดเจน หลังจากนั้นจะมีการนำเสนอสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาเห็นชอบต่อไปและจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงสิ้นเดือน มี.ค.นี้
อัพเดทบัตรสวัสดิการแห่งรัฐลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ
สำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 กระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ
กลุ่มเดิม : คือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนในปัจจุบันจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลัง นำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ
กลุ่มผู้ลงทะเบียนใหม่ : ราว10 ล้านคน คือ กลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมาจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี ที่ได้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังมีกลุ่มตกหล่น จำนวน 8 แสน ที่ยังไม่มายืนยันตัวตน
เช็กคุณสมบัติเบื้องต้น
สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ที่ กระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้ได้กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้
- ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว
- สัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
- ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน หรือในระดับครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
- ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
- ไม่มีบัตรเครดิต
- ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
- ไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
- ไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
- กรณีไม่มีครอบครัว ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตร.ม. และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่ และใช้ในการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ มีบ้านพร้อมที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตร.ว. และรวมกันหมดแล้ว พื้นที่การเกษตรไม่เกิน 10 ไร่
สิทธิในการใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้ถือบัตรรายเดิม 14.5 ล้านคน ดังนี้
ทุกวันที่ 1 ของเดือน :(เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 พ.ย. - 26 ธ.ค. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ม.ค. 68 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 68)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
ทุกวันที่ 20 ของเดือน
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 พ.ย. - 26 ธ.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท).
ที่มา: กรมบัญชีกลาง