“สหกรุ๊ป” จับมือบิ๊กทุนญี่ปุ่น ปั้น “RAGTAG” บุกตลาดแฟชั่นมือสองไทย

21 ธ.ค. 2567 | 15:59 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2567 | 16:07 น.

ตลาดแฟชั่นมือสองทั่วโลกโตแรง “สหกรุ๊ป” จับมือบิ๊กทุนญี่ปุ่น “เวิลด์” เปิดตัว “RAGTAG” ทางเลือกผู้บริโภคยุคใหม่ ใช้อย่างรับผิดชอบ หลังแฟชั่นเสื้อผ้าสร้างปัญหาขยะกองโต ปลุกเทรนด์ “แฟชั่นหมุนเวียน” โตก้าวกระโดด

หากพูดถึงวงจรของธุรกิจที่สร้างขยะมากที่สุดยังหนีไม่พ้น “ธุรกิจแฟชั่น” ซึ่งคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นนั้น ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึงประมาณ 1.2 พันล้านตันต่อปี เมื่อทางออกก่อให้มี “ทางเลือกใหม่” ผู้บริโภคยุคใหม่หันมาหยิบจับ “แฟชั่นหมุนเวียน” เทรนด์ดังกล่าวผลักดันให้ “ตลาดสินค้ามือสอง” โตแบบก้าวกระโดดทั่วโลก ขับเคลื่อนโดยกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการบริโภคอย่างรับผิดชอบ

โดย Boston Consulting Group (BCG) ระบุว่าตลาดแฟชั่นมือสองทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในปี 2027 มูลค่าตลาดจะสูงถึง 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และภูมิภาคเอเชียจะเป็นตลาดหลักที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 41% อีกทั้ง เว็บไซต์ Marketplace ของสินค้าแฟชั่นมือสองสัญชาติอเมริกันอย่าง ThredUp ประมาณการว่าตลาดแฟชั่นมือสองของโลกจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 12% ในช่วงปี 2024-2027 ซึ่งเร็วกว่าตลาดแฟชั่นทั่วไปถึง 3 เท่า

“สหกรุ๊ป” จับมือบิ๊กทุนญี่ปุ่น ปั้น “RAGTAG” บุกตลาดแฟชั่นมือสองไทย

“ตลาดสินค้าแฟชั่นมือสอง” เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมแฟชั่น แฟชั่นมือสองยังเปิดโอกาสให้ทั้งผู้ค้าปลีก สร้างทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ตระหนักในความรับผิดชอบและแสวงหาทางเลือกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเอื้อมถึงในราคาที่ถูกลงอีกด้วย

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหกรุ๊ป เปิดเผยว่า 4 บริษัทในเครือสหกรุ๊ป และ บริษัท เวิลด์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้น พร้อมเปิดตัวร้านค้าแฟชั่นมือสองระดับไฮเอนด์ “แร็กแท็ก” (RAGTAG) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ตอบโจทย์เทรนด์ความยั่งยืนและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกรวมความเชี่ยวชาญของผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งสองเข้าด้วยกัน เพื่อปูทางไปสู่การขยายธุรกิจแฟชั่นที่ยั่งยืนและเป็นผู้นำเทรนด์ในประเทศไทย “แร็กแท็ก” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในญี่ปุ่นในฐานะร้านค้าแฟชั่นมือสองชั้นนำ จะนำเสนอสินค้าแบรนด์เนมคุณภาพสูงหลากหลายแบรนด์ให้กับผู้บริโภคชาวไทย โดยสินค้าทุกชิ้นผ่านการคัดเลือกและตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด

“สหกรุ๊ป” จับมือบิ๊กทุนญี่ปุ่น ปั้น “RAGTAG” บุกตลาดแฟชั่นมือสองไทย

“ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มสหพัฒน์ในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน การเข้ามาของแร็กแท็กจะช่วยเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มสหพัฒน์ และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ”

ด้านนายโนบุเทรุ ซูซูกิ ประธานและตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าชั้นนำของญี่ปุ่น และบริษัทแม่ของ Tin Pan Alley Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการ “แร็กแท็ก” กล่าวเสริมว่า เราเชื่อมั่นว่าตลาดแฟชั่นมือสองในประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก และ RAGTAG จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดนี้ให้เติบโตยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ “แร็กแท็ก” เป็นร้านชั้นนำของญี่ปุ่นในด้านร้านค้าแฟชั่นหรูมือสองซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันมีร้านค้า 23 แห่งที่เปิดดำเนินการในญี่ปุ่นหลังจากเปิดร้านแห่งแรกในฮาราจูกุ โตเกียว ในปี 2528 บริษัทซื้อสินค้า 7 แสนชิ้นต่อปี และสินค้าที่ซื้อทั้งหมดจะถูกนำมาจัดสรรในคลังสินค้ากลาง พร้อมตรวจสอบคุณภาพ และซ่อมแซมก่อนจำหน่าย

“สหกรุ๊ป” จับมือบิ๊กทุนญี่ปุ่น ปั้น “RAGTAG” บุกตลาดแฟชั่นมือสองไทย

นอกเหนือจากการจำหน่ายในร้านแล้ว บริษัทยังนำผลิตภัณฑ์จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีความรวดเร็วอีกด้วย ในส่วนของผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายหน้าร้านค้าเป็นสินค้ามือสองคุณภาพสูงที่คัดสรรโดยผู้ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง และลูกค้าสามารถสัมผัสได้ถึงความสุขในการเลือกซื้อสินค้าด้วยความสบายใจ ส่งผลให้สามารถดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดสินค้าแฟชั่นมือสองมาโดยตลอด

“ธุรกิจนี้ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดสินค้ามือสองในประเทศไทย ซึ่งขับเคลื่อนโดยนักช้อปรุ่นใหม่ที่ชาญฉลาดและใส่ใจในสไตล์ แนวทางการคัดสรรสินค้าสวยหรูมือสองของ “แร็กแท็ก” ให้กับผู้บริโภคชาวไทยในการเลือกช้อปสินค้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์ในราคาที่เอื้อมถึงได้ พร้อมรวบรวมความเป็นเอกลักษณ์และสไตล์ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว”

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,054 วันที่ 19 - 21 ธันวาคม พ.ศ. 2567