นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ว่า ได้สั่งการนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ศึกษาขับเคลื่อนโครงการ ได้แก่
1. สุราชุมชน ซึ่งจะเปิดโอกาส พื้นที่ชุมชนได้มีความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง และหากส่งเสริมในเรื่องสุราชุมชน เกษตรกรก็จะได้รับอานิสงค์ สินค้าเกษตรราคาปรับเพิ่มขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตาม กฎหมายยังมีข้อจำกัด ฉะนั้น จึงขอฝากให้เข้าไปดูรายละเอียดส่วนนี้
ทั้งนี้ พบว่าตลาดเครื่องดื่มไทย ซอฟท์ดริ้ง น้ำแร่ น้ำหวาน มีการส่งออกมากกว่าปีละ 7 หมื่นล้านบาท รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้สูงกว่า ปีละ 1.85 แสนล้านบาท ถือได้ว่าธุรกิจเรื่องน้ำมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก หากรัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สร้างสรรค์
2. บ้านเพื่อคนไทย โดยคนไทยในเมืองทุกวันนี้บางคนไม่สามารถหาบ้านดีๆ ได้ เพราะบ้านที่ทำเลดีในราคา 2 ล้านบาท แถวรถไฟฟ้าหาแทบไม่ได้แล้ว เด็กจบใหม่ที่คิดจะมีเงินเก็บไปซื้อบ้านต่อ เงินดาวน์ราคาบ้านขยับขึ้น ก็ซื้อไม่ได้ ฉะนั้น รัฐบาลจึงมีนโยบายสร้างบ้าน ผ่านโครงการบ้านเพื่อคนไทย
โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นทำเลที่ดี ใกล้ความสะดวกของประเทศ เริ่มจากพื้นที่การรถไฟ จะสร้างคอนโดมีคุณภาพ เริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตร มีฟอร์นิเจอร์ที่สามารถอยู่ได้อย่างสบายใจ
สำหรับโครงการบ้านเพื่อคนไทยดังกล่าว ไม่มีการจ่ายเงินดาวน์ เป็นการจ่ายระบบผ่อนค่าเช่า เดือนละ 4,000 บาท และผ่อนยาว 30 ปี มีสิทธิอยู่ถึง 99 ปี สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมีบ้าน ยืนยันว่า เป็นบ้านเพื่อคนไทยเท่านั้น เด็กจบใหม่ ก็มีโอกาสมีบ้านเป็นของตัวเอง ในปี 2568 นี้ จะมีบ้านตัวอย่างเป็นของตัวเอง
“เรื่องนี้ก็ขอฝาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หารือร่วมกัน”
และ 3. การแก้ไขหนี้ครัวเรือน ทั้งหนี้รถ บ้าน และเอสเอ็มอี ซึ่งปัญหาหนี้ ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ของไทย ได้ร่วมมือกัน และลดเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF ครึ่งหนึ่ง เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชน โดยการชำระหนี้จะจ่ายเฉพาะเงินต้น ครบ 3 ปี ยกเว้นดอกเบี้ยให้ เพื่อช่วยประชาชนลืมตาอ้าปากได้
ทั้งนี้ พบว่า ประชาชนมีหนี้เสียต่ำกว่า 5,000 บาท ประมาณ 3.35 แสนบัญชี รัฐบาลได้ประนีประนอมหนี้ส่วนนี้ และจะเคลียร์หนี้ส่วนนี้เพื่อให้สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ขณะที่เรื่อง Moral hazard นั้น ย้ำว่ารัฐบาลให้เฉพาะผู้ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไข และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริง ซึ่งมอบหมายกระทรวงการคลังให้รายละเอียดเรื่องดังกล่าวในอนาคต