FTA อาเซียน-แคนาดา ล่าช้า พาณิชย์ปรับแผน ตั้งเป้าปิดดีลปี 2568

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการอาเซียนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา (ACAFTA TNC) รอบที่ 10 เมื่อวันที่ 28-29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อติดตามการเจรจาของคณะทำงานเจรจา 19 กลุ่ม ที่คืบหน้าต่างกันมาก พร้อมเร่งปรับแผนเจรจาให้สรุปผลได้ภายในปี 2568 ตามที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจตั้งเป้าไว้

นางสาวโชติมา กล่าวว่า ภาพรวมการเจรจาล่าสุดยังมีความล่าช้าอยู่ โดยคณะทำงานด้านพิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า (WG-CPTF) เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ได้ข้อสรุปเกินครึ่ง ส่วนกลุ่มที่เหลือยังเจรจาได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด สาเหตุสำคัญเนื่องจากติดขัดในประเด็นเชิงนโยบายที่ยังมีความเห็นต่างกันอยู่ระหว่างอาเซียนและแคนาดา เช่น แนวทางการเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน มาตรการเยียวยาทางการค้า การเปิดตลาดการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ความโปร่งใส และแนวทางปฏิบัติที่ดีในการออกกฎระเบียบ เป็นต้น

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะเร่งเจรจาให้เร็วขึ้น โดยจะผลักดันให้คณะทำงานจัดประชุมเพิ่มเติม อาทิ เรื่องการเยียวยาทางการค้า MSME และใช้ประโยชน์โครงการช่วยเหลือทางเทคนิค เพื่อหารือประเด็นติดขัด เช่น เรื่องถิ่นกำเนิดสินค้า และการค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมเรื่องแรงงาน สิ่งแวดล้อม และการค้าที่ครอบคลุมด้วย รวมถึงให้เน้นการเจรจาในประเด็นที่ยอมรับร่วมกันได้ก่อน แล้วจึงหาทางออกประเด็นติดขัดในภายหลัง อาทิ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำให้หยิบยกประเด็นติดขัดให้คณะกรรมการ TNC แก้ปัญหาให้อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้สามารถสรุปผลได้ทันตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยในปี 2568 จะจัดประชุม ACAFTA TNC อีก 5 รอบ เพื่อปิดดีลตามกำหนด 

นางสาวโชติมา เสริมว่า ไทยพร้อมสนับสนุน FTA อาเซียน-แคนาดา อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคธุรกิจ รวมถึงขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนที่เชื่อมโยงทั้งสองภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน แคนาดาก็ให้ความสำคัญกับการสรุปผล ACAFTA โดยเร็ว เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งสำคัญในช่วงปี 2568 อีกทั้งภาคธุรกิจแคนาดายังแสดงความตั้งใจที่จะเพิ่มการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนรวมถึงไทย นอกจากนี้ แคนาดามีแผนจะนำคณะนักธุรกิจแคนาดากว่า 100 บริษัทมาเยือนไทยช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งจะเป็นโอกาสดีในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองฝ่ายและขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน 

ทั้งนี้ ในปี 2566 แคนาดาเป็นคู่ค้าอันดับที่ 30 ของไทย โดยการค้าระหว่างไทยและแคนาดา มีมูลค่า 2,933.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 10.41 โดยไทยส่งออกไปแคนาดา มูลค่า 1,903.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ร้อยละ 10.07 และไทยนำเข้าจากแคนาดา มูลค่า 1,030.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ร้อยละ 11.03

สำหรับในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค. 2567) การค้าระหว่างไทยและแคนาดา มีมูลค่า 2,666.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปแคนาดา มูลค่า 1,750.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากแคนาดา มูลค่า 915.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ และปุ๋ย