โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท จำนวนไม่เกิน 4 ล้านคน ตามนโยบายรัฐบาล มีความชัดเจนเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาแล้ว ภายหลังจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำหนังสือแจ้งมติครม. ต่อหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง เจ้าของเรื่องมีเนื้อหาสำคัญ ระบุว่า
ตามที่ได้เสนอเรื่อง โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ไปเพื่อดำเนินการความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น กระทรวงยุติธรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ได้เสนอความเห็นไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เลขาธิการคณะรัฐมนตรี รายงานว่า กระทรวงการคลังขอถอนเรื่องนี้คืนไปก่อน ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง ถอนเรื่องนี้คืนไปได้ จึงเรียนยืนยันมา
ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยังได้แจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบมติครม. เกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ครั้งนี้ ประกอบด้วย กระทรวงยุติธรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยังได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กระทรวง พม.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อรับทราบด้วย
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการรายงานว่า ในคราวประชุมครม. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ถอนวาระออกจากการประชุมครั้งก่อน และให้กระทรวงการคลังกลับไปพิจารณารายละเอียดด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบอีกครั้ง เบื้องต้น นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า กระทรวงการคลังน่าจะเสนอโครงการเข้ามายัง ครม.ได้เร็ว ๆ นี้ และยืนยันยังคงระยะเวลาการแจกเงินได้ทันสิ้นเดือนม.ค.2568 แน่นอน