การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ 11 ธันวาคม 2567 นี้ จับตากระทรวงการคลัง เตรียมเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวนไม่เกิน 4 ล้านคน ภายหลังจากนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ถอนวาระออกจากการประชุมครม.ครั้งก่อน และให้กระทรวงการคลัง กลับไปพิจารณารายละเอียดด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการคลัง จะเสนอเข้ามาในการประชุมครม.สัปดาห์หน้านี้ทัน เชื่อว่า รายละเอียดต่าง ๆ อาจจะยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยเสนอเข้ามามากนัก โดยเฉพาะหลักเกณฑ์เงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับสิทธิเงิน 10,000 บาท ในกลุ่มของผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
สำหรับในรายละเอียดเบื้องต้น ประเมินว่า คุณสมบัติของผู้ที่ได้รับสิทธิเงิน 10,000 บาท ครั้งนี้ จะเป็นผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ที่รัฐบาลเคยเปิดให้ลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้ ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ สำเร็จแล้ว และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ
ทั้งนี้ยังกำหนดให้ผู้ได้รับสิทธิ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายเดิมคือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ ที่รัฐบาลได้จ่ายเงิน 10,000 บาทไปแล้ว ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 โดยประเมินว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าข่ายได้รับเงินประมาณไม่เกิน 4 ล้านคน
สำหรับการจัดเตรียมวงเงินเพื่อให้ในการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ 10,000 บาท นั้น ได้ข้อสรุปชัดเจนว่าวงเงินทั้งหมดจะใช้จากงบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวน 40,000 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้รัฐบาลได้ตั้งงบเอาไว้ใช้จ่ายสูงถึง 187,700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหากเสนอเข้าที่ประชุมครม.ได้ทันและที่ประชุมครม.เห็นชอบ ขั้นตอนต่อจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการในขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์ โดยจะคัดกรองรายชื่อผู้ที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท ที่ได้ลงทะเบียนร่วมโครงการมาก่อนหน้านี้ให้เสร็จสิ้น
จากนั้นจึงเสนอรายละเอียดทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลัง เพื่อเริ่มขั้นตอนการพิจารณาจ่ายเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวบัตรประชาชน เบื้องต้น นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ โดยยืนยันว่า จะแจกเงินได้ทันสิ้นเดือนม.ค.2568 แน่นอน