สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับ "คนไทยกับของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล" โดยทำการสำรวจทั้งทางออนไลน์และภาคสนามกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,246 คน ระหว่างวันที่ 3-6 ธันวาคม 2567 พบข้อมูลสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งในเรื่องแผนการเดินทาง การใช้จ่าย รวมถึงของขวัญที่ประชาชนคาดหวังจากรัฐบาล
จากผลสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 56.02 มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 90.26) เลือกเดินทางในประเทศ
ซึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (ร้อยละ 56.83) ตามด้วย เชียงราย (ร้อยละ 49.05) และ กรุงเทพฯ (ร้อยละ 38.10) ส่วนการท่องเที่ยวต่างประเทศมีเพียงร้อยละ 9.74
ในการเดินทางครั้งนี้ ประชาชนคาดว่าจะใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 17,317.10 บาทต่อคน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายไม่เกิน 5,000 บาท (ร้อยละ 46.94) กลุ่มที่ใช้จ่ายระหว่าง 5,001-10,000 บาท (ร้อยละ 23.89) และกลุ่มที่ใช้จ่ายระหว่าง 10,001-20,000 บาท (ร้อยละ 19.53)
ขณะที่กลุ่มที่มีแผนใช้จ่ายมากกว่า 20,001 บาท มีเพียงร้อยละ 9.64 ซึ่งสะท้อนถึงความระมัดระวังในการใช้จ่ายท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
หนึ่งในประเด็นสำคัญของผลสำรวจคือ ความต้องการของประชาชนต่อของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล โดย อันดับ 1 ร้อยละ 59.95 ระบุว่า มาตรการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เป็นของขวัญที่ต้องการมากที่สุด
รองลงมาคือ การช่วยลดค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าพลังงานต่าง ๆ (ร้อยละ 58.03) และ อันดับสาม มาตรการลดค่าครองชีพ (ร้อยละ 53.17)
ความต้องการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงภาระค่าครองชีพที่ประชาชนต้องแบกรับในปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียง “ความหวัง” ในช่วงเทศกาล แต่ยังแสดงถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องการการแก้ไขอย่างจริงจังจากรัฐบาล
เมื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับ "การมอบของขวัญปีใหม่" พบว่า ร้อยละ 60.76 ของประชาชนมองว่า การมอบของขวัญควรเป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องดำเนินการอยู่แล้ว ขณะที่ร้อยละ 51.95 เห็นว่าควรให้ของขวัญที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และร้อยละ 48.81 ระบุว่าไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม ขอเพียงให้ประชาชนได้รับประโยชน์
นอกจากนี้ ประเด็นปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลแก้ไขก่อนถึงปีใหม่ ได้แก่ ปัญหาค่าครองชีพ (ร้อยละ 66.48) ปัญหายาเสพติด (ร้อยละ 57.51) และ ปัญหาน้ำท่วม/ภัยแล้ง (ร้อยละ 56.46)
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลสำรวจนี้ชี้ให้เห็นว่า "ของขวัญปีใหม่" ที่ประชาชนต้องการ ไม่ได้เป็นเพียงความหวังในช่วงเทศกาล แต่ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น ภาระค่าครองชีพที่สูงเมื่อเทียบกับรายได้และความมั่นคงที่ต่ำ
"รัฐบาลควรใช้ช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นโอกาสสำคัญในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจที่มีผลในระยะยาว เพื่อให้การแจกเงินหรือมาตรการพิเศษไม่เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ช่วยวางรากฐานที่ยั่งยืน" นางสาวพรพรรณกล่าว
ในมุมมองเดียวกัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชี้ว่า การมอบของขวัญปีใหม่ควรเน้นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน เพื่อให้คนไทย "มีกิน มีใช้ มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี"
ผลสำรวจจากสวนดุสิตโพลครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการและความคาดหวังของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งนอกจากมาตรการแจกเงินและลดค่าครองชีพที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับรัฐบาลในการกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เพื่อช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เพียงในเทศกาลพิเศษ แต่ในทุกช่วงเวลาของปี