นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบข้อเสนอ “การพัฒนาหลักประกันบริการทางสังคมแก่กลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน” ของคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ (ก.ส.ค.) โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ และตน เป็นรองประธานคณะกรรมการ โดยสาระสำคัญของข้อเสนอดังกล่าว มีดังนี้
สำหรับกลุ่มเด็กและเยาวชน จะมีการปรับฐานกลุ่มเป้าหมายโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด หรือ "เงินอุดหนุนบุตร" เป็นการให้เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้า โดยไม่ต้องมีการคัดกรองรายได้ของครอบครัว จากเดิมครัวเรือนต้องมีสมาชิกที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
และขยายอายุของเด็กให้ครอบคลุม เริ่มจากเด็กในครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 6 ปี จากเดิมตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี โดยได้รับเงินในอัตรา 600 บาท/คน/เดือน (เท่าเดิม)
นายวราวุธ กล่าวว่า จะมีการปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได เพื่อให้เพียงพอต่อค่าครองชีพของผู้สูงอายุในสถานการณ์ปัจจุบัน ดังนี้
รมว. ระบุด้วยว่า สำหรับกลุ่มคนพิการ จะมีการปรับเบี้ยความพิการให้สอดคล้องกับค่าครองชีพเป็น 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการนำคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ สามารถเข้าถึงสิทธิได้อย่างทั่วถึงเท่าเทียมและเป็นธรรม
ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้วางแนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอดังกล่าวในประเด็นเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการ ดังนี้ เมื่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งมติ ค.ร.ม. กลับมายังกระทรวง พม. ให้ทราบ พร้อมความเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประกอบ ทางกระทรวง พม. จะดำเนินการพิจารณาในส่วนของการจัดทำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม ได้แก่
1.การจัดทำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายเด็ก ผู้สูงอาย และคนพิการ เพื่อให้ได้จำนวนกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินการ
2.ประชุมร่วมกับสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง สำหรับแหล่งทุนในการดำเนินการ
3. กำหนดแนวทางในการโอนเงินให้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวเป็นข้อเสนอสำหรับการจัดสวัสดิการถ้วนหน้า โดยการได้รับสวัสดิการเป็นไปตามสิทธิ ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องพิจารณาการจัดการเพื่อให้เข้าถึงสิทธิในแต่ละกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
“สำหรับแผนการดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว คาดว่าหากไม่ติดขัดในประเด็นใด ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ประชาชนกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มจะได้รับเงินต่างๆ” นายวราวุธ กล่าวในตอนท้าย