ไร่ละ 1000 ปี 67/68 ชัดเจนแล้วว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่มี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยเมื่อ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุม นบข. ที่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังเป็นประธานมีมติเห็นชอบเงินช่วยเหลือชาวนา ช่วยค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตข้าว เป็นเงินไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท โดยมีชาวนาที่ได้รับประโยชน์ 4.68 ล้านครัวเรือน เป็นวงเงินประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท
ล่าสุด นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2567) ที่จังหวัดเชียงใหม่ จะยังไม่พิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ที่มีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน โดยใช้เงินงบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตชาวนาปีการผลิต 2567/68 ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท เพราะยังติดขั้นตอนการเสนอขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
"ทั้งสองโครงการยังต้องมีขั้นตอนการขอความเห็นจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเสนอประกอบเข้ามาก่อน และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะต้องเซ็นชื่อประกอบความเห็นก่อนที่จะนำเสนอ ครม.ด้วย จึงคาดว่า น่าจะเสนอเข้าสู่การประชุม ครม.อีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า วันที่ 3 ธันวาคม นี้"
หลังจาก ครม.อนุมัติเป็นทางการแล้ว ธ.ก.ส.จะทำหน้าที่การโอนเงินเงินไร่ละ 1,000 ปี 67/68 ซึ่งแบ่งการโอนเงินเป็นรอบ ๆ ตามที่ ธ.ก.ส.เคยโอนเงินไร่ละ 1,000 ปี 66/67
เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสามารถตรวจสอบเงินโอนเข้าไร่ละ 1,000 ปี 67/68 ผ่าน 3 ช่องทางนี้
ช่องทางแรก
ช่องทางที่สอง
ช่องทางสุดท้าย คือ
ซึ่งเชื่อว่าเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าใจในการตรวจสอบสิทธิเงินโอนไร่ละ 1,000 เป็นอย่างดี เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลได้แจกเงินไร่ละ 1,000 ปี 66/67 จำนวน 20 ไร่ไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ในปีนี้รัฐบาลได้ลดจำนวนไร่ลงเพราะต้องการให้เกษตรกรได้รับเงินไร่ละ 1,000 อย่างทั่วถึง
ล่าสุดวันนี้ 2 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันอังคารที่ 3 ธันวาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะนำเโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตชาวนาปีการผลิต 2567/68 ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาทเข้าที่ประชุม ครม.เพื่ออนุมัติแจกเงินไร่ละ 1,000 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส.ขอความร่วมมือชาวนาที่รอรับการช่วยเหลือเงินไร่ละ 1,000 ปี 67/68 ตรวจสอบบัตร ATM ชำรุด หมดอายุหรือไม่ การผูกพร้อมเพย์กับบัญชี ธ.ก.ส. ให้พร้อมรับการช่วยเหลือในการเบิกถอนเงิน หลังจาก ครม.อนุมัติและนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเป็นของขวัญปีใหม่ ทาง ธ.ก.ส.จัดทำแผนการจ่ายเงินไร่ละ 1,000 ปี 67/68 เพื่อจัดทำแผนตรารางโอนเงินให้กับเกษตรกร ภายในเดือนธันวาคม 2567 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2568
ล่าสุด นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้า ”เงินช่วยชาวนา” หรือ โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงิน 38,578.19 ล้านบาท จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ ( 3 ธ.ค.67) แน่นอน
วันนี้ 3 ธันวาคม 2567 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าเงินช่วยเหลือชาวนาในโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 4.61 ล้านครัวเรือน วงเงิน 38,578.19 ล้านบาทว่า ได้ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว จึงขอประกาศให้ชาวนาทั่วประเทศรับทราบพร้อมกัน
“เมื่อผ่านที่ประชุม ครม.แล้ว ทาง ธ.ก.ส. จะดำเนินการไปกำหนดการวางแผนจ่ายเงินให้กับชาวนาต่อไป คาดว่าจะจ่ายภายในปีนี้แน่นอน โดยทางกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินไร่ละ 1,000 บาทให้ กำหนดแบ่งการโอนเป็นรอบต่อไป โดยจะจ่ายได้ไม่เกิน 10 วันทำการ นับจากวันนี้ ส่วนเงื่อนไขเกษตรที่จะได้รับเงินไร่ละ 1,000 บาท ต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร“
ทั้งนี้เกษตรกรสามารถเข้าไปเช็กสถานะทะเบียนเกษตรได้ผ่านออนไลน์ e-Form เว็บไซต์ https://efarmer.doae.go.th/checkFarmer (คลิกที่นี่)
ล่าสุด ธ.ก.ส. ได้ส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ว่า โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 "อัตราการสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท" ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ (รวมไม่เกิน 10,000 บาท)
สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ระยะเวลาจ่ายเงิน ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2568
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา
วันนี้ 6 ธันวาคม 2567 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. พร้อมดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศ ผ่านมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปีการผลิต 2567/68 ตามนโยบายรัฐบาล โดยได้มอบหมายให้พนักงาน ธ.ก.ส. ลงพื้นที่ ในการเข้าไปชี้แจงเงื่อนไขมาตรการ รวมถึงการตรวจสอบคุณสมบัติเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและยุ้งฉาง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกรในการเข้าร่วมมาตรการฯ ทั้งสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี วงเงินรวมกว่า 35,000 ล้านบาท โดยเกษตรกรกู้ได้รายละไม่เกิน 300,000 บาท สหกรณ์การเกษตรและชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรไม่ต้องชำระดอกเบี้ย โดยรัฐบาลรับภาระในการชำระดอกเบี้ยแทน เพื่อป้องกันปัญหาผลผลิตข้าวเปลือกล้นตลาดและมีราคาตกต่ำ รวมถึงเสริมสภาพคล่องให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีเงินหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว ตั้งเป้ารองรับปริมาณข้าวเปลือกจากท้องตลาด 3 ล้านตัน โดยมีประเภทข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการ ดังนี้
โดยวงเงินแบ่งตามประเภทผู้กู้และศักยภาพการทำธุรกิจ ดังนี้