ททท.ดึงบิ๊กอีเวนต์บูมเชียงใหม่ กระตุ้นการท่องเที่ยวรับไฮซีซั่น

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ททท. เตรียมเดินหน้าสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้คึกคัก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงในภูมิภาคภาคเหนือในช่วงไฮซีซั่นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นปี 2568

โดยในช่วงปลายปีนี้ ททท. จะกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการจัดอีเวนต์ กิจกรรม และเทศกาล ครอบคลุมในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี ซึ่ง ททท. จะส่งมอบความสุขจากการเดินทางด้วยโครงการ Chiang Mai Festival City จัดเต็มบิ๊กอีเวนต์ในพื้นที่เชียงใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 

 

 

"จากการพบปะผู้ประกอบการในพื้นที่เชียงใหม่พบว่า การท่องเที่ยวฟื้นตัวจากสถานการณ์อุทกภัยแล้ว โดยในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา ยอดจองห้องพักเต็มในโรงแรมหลายแห่ง และมีเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศเข้าสู่สนามบินเชียงใหม่เพิ่มขึ้น โดยผู้ประกอบการพร้อมให้บริการอำนวยความสะดวกและส่งมอบความสุขแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางในช่วงปลายปี" น.ส.ฐาปนีย์ ระบุ

สำหรับโครงการ Chiang Mai Festival City เป็นกิจกรรม Event Marketing ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ และนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่ อาทิ เส้นทางชากาแฟ อาหารถิ่น รวมไปถึงเรื่องที่กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของนักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ 

 

สำหรับอีเวนต์ที่ททท. อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวรับลมหนาวในช่วงเดือนปลายเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2567 ได้แก่ 

งาน Amazing Northern Coffee Gathering 2024 ชุมนุมคนรักกาแฟ วันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 กิจกรรมสำหรับผู้ชื่นชอบกาแฟ นำเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่นภายใต้บรรยากาศกาแฟในสว

งาน Amazing Chiang Mai Meat & Camp 2024 วันที่ 5 -8 ธันวาคม 2567 อีเวนต์สำหรับผู้ชื่นชอบ Camping และรับประทานเนื้อ เช็กอินถ่ายภาพในบรรยากาศธรรมชาติสไตล์ชาวแคมป์

งาน “ฟู้ด เฟสติเว่อร์” วันที่ 11 – 15 ธันวาคม 2567 เทศกาลอาหารสุดยิ่งใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ รวบรวมอาหารถิ่นจาก 5 ภูมิภาคและร้านอาหารชื่อดังจากทั่วประเทศกว่า 70 ร้าน และการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดังและศิลปินในท้องถิ่น

งาน Amazing Chiang Mai Countdown 2025 วันที่ 21- 31 ธันวาคม 2567 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ กิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ประดับตกแต่งไฟ การแสดงโดรน การฉาย Illumination & 3D Mapping พร้อมพลุสุดอลังการ

 

 

อย่างไรก็ดี ททท. ได้ชูสินค้าโดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่และพืชเศรษฐกิจหลักของภาคเหนือ ผ่านเส้นทางคนรักกาแฟ เพื่อดึงดูดให้กลุ่มคนที่รักกาแฟได้มาสัมผัสถึงวัฒนธรรมด้านกาแฟแถบภาคเหนือของประเทศไทย พร้อมเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางค้นหากาแฟแก้วโปรดจาก 365 เมนูจากร้านกาแฟในภาคเหนือ 17 จังหวัดภายใต้แคมเปญ 365 Days of Coffee at North พร้อมดึงจุดแข็งในพื้นที่สู่จุดขายตามกลยุทธ์ “5 Must Do in Thailand” ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย 

Must Taste : ต้องชิม อิ่มอร่อยอาหารจานเด็ด ได้แก่ 1. กาแฟเทพเสด็จ จังหวัดเชียงใหม่ 2. ชาอู่หลง ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย 3. ไส้อั่ว 4. อาหารเป็นยา ชุมชนออนใต้ จังหวัดเชียงใหม่ 5. อาหารอาข่า จังหวัดเชียงราย 

Must Try : ต้องลองกิจกรรมการท่องเที่ยวหลากหลาย ได้แก่ 1. นวดฟ้อนเล็บ จังหวัดเชียงใหม่ 2.แช่น้ำร้อนเพื่อสุขภาพ น้ำพุร้อนสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ 3. นวดย่ำข่าง บ้านไร่กองขิง จังหวัดเชียงใหม่ 4. เก็บชา ดอยปู่หมื่น จังหวัดเชียงใหม่ 5. งาน Hoka Chiang Mai by UTMB 

Must Buy : ต้องซื้อของกินของฝากล้ำค่า ได้แก่ 1. เครื่องเคลือบเวียงกาหลง จังหวัดเชียงราย 2. เครื่องเคลือบศิลาดล จังหวัดเชียงใหม่ 3. ร่มบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่ 4. ส้มสายน้ำผึ้ง อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และ 5. ชาอู่หลง ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

Must Seek : ต้องแสวงหา แหล่งท่องเที่ยว Unseen ได้แก่ 1. สวนแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย 2. นาขั้นบันได จังหวัดเชียงใหม่ 3. วัดหลวงขุนวิน จังหวัดเชียงใหม่ 4. ดอกนางพญาเสือโคร่ง จังหวัดเชียงใหม่ และ 5. ชุมชนบ้านปางห้า จังหวัดเชียงราย 

Must See : ต้องชม ละลานตาการแสดง ได้แก่ 1. งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนและงานเชียงรายดอกไม้งาม จังหวัดเชียงราย 2. ป๋าเวณีปี่ใหม่เมืองเจียงใหม่ 3. ประเพณีโล้ชิงช้า จังหวัดเชียงราย 4. ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ และ 5. งานมหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สาย จังหวัดเชียงราย

 

 

ทั้งนี้ ททท. คาดว่า ในปี 2567 ภูมิภาคภาคเหนือจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 22.3 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 138,537 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่จะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 8.6 ล้านคน-ครั้ง เติบโต 4% เมื่อเทียบกับปี 2566 และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 43,000 ล้านบาท เติบโต 7%