รัฐบาลอัดงบ 3 พันล้าน ฟื้นฟูน้ำท่วมล็อตใหม่ ชงครม.สัญจร 29 พ.ย.นี้

26 พ.ย. 2567 | 18:04 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2567 | 18:12 น.

รองนายกฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เรียกศปช.ประชุมด่วน พร้อมเห็นชอบงบประมาณช่วยเหลือฟื้นฟูน้ำท่วม ล็อตใหม่ 3,000 ล้านบาท เตรียมชงครม.สัญจร วันที่ 29 พฤศจิกายน นี้

วันนี้ (26 พฤศจิกายน 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 2/2567 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีคณะทำงาน และผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการตามที่กรมชลประทานเสนอ ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำ เตรียมความพร้อมโครงการ และฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 564 รายการ วงเงิน 2,999.8009 ล้านบาท แบ่งเป็น ดังนี้ 

1.ซ่อมแซมงานชลประทาน จำนวน 374 โครงการ วงเงิน 1,122.55 ล้านบาท

2. ปรับปรุงงานชลประทาน จำนวน 39 โครงการ วงเงิน 457.79 ล้านบาท

3. ขุดลอกคลอง จำนวน 15 โครงการ วงเงิน 24.71 ล้านบาท

4. ขุดลอกอ่างเก็บน้ำ จำนวน 6 โครงการ วงเงิน 4.41 ล้านบาท

5. ก่อสร้างงานชลประทาน จำนวน 41 โครงการ วงเงิน 1,113.05 ล้านบาท

6. กำจัดวัชพืช จำนวน 25 โครงการ วงเงิน 7.87 ล้านบาท

7. จัดหาครุภัณฑ์ จำนวน 1 โครงการ วงเงิน 38.50 ล้านบาท

8. อื่น ๆ เช่น ซ่อมแซมถนน อาคารที่ทำการ ซ่อมบำรุงรักษาครุภัณฑ์ เป็นต้น จำนวน 63 โครงการ วงเงิน 230.90 บาท 

ทั้งนี้ที่ประชุมมอบหมายให้กรมชลประทานหารือกับสำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับให้นำเสนอรายละเอียดแผนงาน/โครงการ เสนอต่อที่ประชุม ครม.ในวันที่ 29 พฤศจิกายน นี้

นายภูมิธรรม ระบุว่า เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครอบคลุมทุกพื้นที่ ขอให้ยึดตามประกาศเขตภัยพิบัติอุทกภัย-วาตภัย เป็นหลัก และพิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการช่วยเหลือ และความเร่งด่วนการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับความเสียหาย ซึ่งในลำดับแรกขอให้เน้นไปยังจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนัก สำหรับภาคใต้ ซึ่งขณะนี้กำลังประสบอุทกภัย ศปช. ไม่ได้นิ่งนอนใจ หากงบประมาณในการขออนุมัติครั้งไม่เพียงพอจะเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณจาก ครม. เพื่อนำไปช่วยเหลือต่อไป