รายงานความยั่งยืน“ซีพี” ติดท็อป 1 ใน 14 องค์กรชั้นนำสภาธุรกิจโลก

11 พ.ย. 2567 | 17:52 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ย. 2567 | 18:10 น.

รายงานความยั่งยืนของเครือซีพี ติดท็อป 1 ใน 14 องค์กรธุรกิจชั้นนำจากสภาธุรกิจโลก ตอกย้ำมุ่งสู่ผู้นำด้านความยั่งยืนทุกมิติเศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม "ศุภชัย"ชี้ รายงานความยั่งยืนไม่ใช่แค่เอกสาร แต่คือแผนธุรกิจเพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน

รายงานข่าวจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เผยว่า ซีพีได้รับการยกย่องจากสภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCSD) ในรายงาน “Reporting Matters 2024” ให้เป็นหนึ่งใน 14 บริษัทชั้นนำจาก 196 บริษัททั่วโลกที่มีการจัดทำรายงานความยั่งยืนยอดเยี่ยม โดยซีพีได้รับการยอมรับในฐานะ “Top Performer” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

นอกจากนี้ยังเป็นปีแรกที่ซีพีได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวอย่างองค์กรที่มีการวิเคราะห์ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน (Materiality Assessment) ที่โดดเด่น ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการระบุผลกระทบทั้งทางบวกและลบ รวมถึงการจัดการความเสี่ยงอย่างชัดเจน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ นายศุภชัย  เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ย้ำว่า รายงานความยั่งยืนของซีพีไม่ใช่เพียงเอกสารทางธุรกิจ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนและกำหนดทิศทางการดำเนินงานที่สร้างสรรค์คุณค่าให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ รายงานนี้ช่วยให้องค์กรสามารถประเมินผลกระทบ วิเคราะห์ความเสี่ยง และสร้างความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าการเติบโตขององค์กรสอดคล้องกับความยั่งยืนในทุกมิติ

รายงานความยั่งยืน“ซีพี” ติดท็อป 1 ใน 14 องค์กรชั้นนำสภาธุรกิจโลก

การที่ซีพีได้รับการยอมรับจาก WBCSD ในฐานะองค์กรชั้นนำด้านการรายงานความยั่งยืน เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและรับผิดชอบ

 

นายจอห์น รีเวสส์ รองประธานฝ่ายการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจของ WBCSD กล่าวว่า การจัดทำรายงานความยั่งยืนกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกฎระเบียบและข้อกำหนดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ทำให้บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มและความต้องการในปัจจุบัน องค์กรที่ได้รับเลือกให้ติดอันดับในรายงาน “Reporting Matters 2024” จึงถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการปรับตัวและตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า จุดแข็งของรายงานฉบับนี้อยู่ที่การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างครอบคลุม รวมถึงการวิเคราะห์เชิงลึกในด้านความยั่งยืนผ่านกระบวนการประเมินแบบ Double และ Dynamic Materiality ซึ่งช่วยให้เครือซีพีสามารถประเมินผลกระทบรอบด้าน สร้างความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ และจัดการความเสี่ยงได้อย่างเป็นระบบ พร้อมกำหนดแนวทางการสร้างคุณค่าในระยะยาว

สำหรับการคัดเลือกรายงานความยั่งยืนในครั้งนี้ WBCSD ใช้เกณฑ์การประเมิน 3 ด้านหลัก ได้แก่ Principles, Content และ Effectiveness ซึ่งซีพีได้รับการประเมินว่ามีการพัฒนาและปรับปรุงรายงานด้านความยั่งยืนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลมาอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานความยั่งยืนของซีพีครอบคลุมทุกมิติของความยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งระบุรายละเอียดมาตรฐานที่ใช้อ้างอิงในการจัดทำรายงานตามแนวทางสากล

ในปีนี้ WBCSD ได้ยกย่ององค์กรชั้นนำจำนวน 14 บริษัทจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ที่มีความมุ่งมั่นในการรายงานความยั่งยืนอย่างเป็นเลิศ ได้แก่ 3M จากสหรัฐอเมริกา, เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จากประเทศไทย, CLP Group จากฮ่องกง, CRH จากไอร์แลนด์, CMPC จากชิลี, EDP จากโปรตุเกส, Enel จากอิตาลี, Mondi จากสหราชอาณาจักร, Novartis จากสวิตเซอร์แลนด์, Nutrien จากแคนาดา, PepsiCo จากสหรัฐอเมริกา, Philip Morris International จากสหรัฐอเมริกา, SCG จากประเทศไทย และ Yara จากนอร์เวย์

การที่รายงานความยั่งยืนของซีพีได้รับการยอมรับจาก WBCSD ในรายงาน “Reporting Matters 2024” จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของซีพีในการนำเสนอความเป็นเลิศด้านความยั่งยืน และยังตอกย้ำถึงการยืนหยัดในความมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศและในระดับสากล