ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่กระทรวงการคลัง ก่อนร่วมประชุมกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ทีมผู้บริหารจากกระทรวงการคลัง และธปท. เพื่อหารือถึงการกำหนดกรอบเป้าหมายการบริหารอัตราเงินเฟ้อในปี 2568
โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินเฟ้อในปี 2567 คาดว่าน่าจะออกมาต่ำกว่ากรอบที่กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วางไว้
ทั้งนี้ เราคิดว่าเงินเฟ้อที่เหมาะสมจะต้องสอดคล้องกับเศรษฐกิจของไทย คือต้องไม่ต่ำเกินไป หรือหากสูงต้องไม่อยู่ในระดับที่สูงจนอันตราย ส่วนกรอบจะเป็นอย่างไรนั้น เราอยากจะเห็นของจริงมากกว่าว่าจะทำได้อย่างไรบ้าง
สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออก เราจึงอยากเห็นการบริหารจัดการเช่นเดียวกันกับบางประเทศที่เอาเรื่องค่าเงินเข้ามาใส่โดยไม่มีการแทรกแซงให้ผิดปกติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นคนละประเด็นแต่เชื่อว่ามีเครื่องมือที่สามารถบริหารจัดการได้
“กรอบเงินเฟ้อที่เหมาะสมจะอยู่ที่เท่าไรก็แล้วแต่ แต่ผมเน้นว่าอยากเห็นกรอบที่อยู่ในของจริงมากกว่า ซึ่งประเทศที่อยู่ข้างเคียงเรา กรอบเงินเฟ้อของเขาอยู่ค่อนข้างสูง ผมก็เห็นว่าเขาประสบความสำเร็จ หรือบางประเทศค่ากลางของกรอบเงินเฟ้ออยู่ใกล้ๆ ระดับ 3% ส่วนของเราควรจะเป็นเท่าไรมองว่าเงินเฟ้อที่ต่ำกว่า 1% นั้นอยู่ในระดับต่ำจริง”
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.ย.67 อยู่ที่ระดับ 0.61%หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อเฉลี่ย 9 เดือนแรกของปี 67 อยู่ที่ 0.2% ขณะที่กรอบเงินเฟ้อที่กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วางเป้าหมายปี 67 ไว้อยู่ที่ 1-3%ต่อปี