วันนี้ (28 ตุลาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือกับ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดยมี นายสนั่น อังอุบลกุล ในฐานะประธาน กกร. และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ นายผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย
ทั้งนี้ก่อนการหารือ นายสนั่น อังอุบลกุล ในฐานะประธาน กกร. ได้มอบ “สมุดปกขาว” ซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชน เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเฉพาะการขับเคลื่อรการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เสนอให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา
สำหรับข้อเสนอหนึ่งของ กกร. นั่นคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โยนายสนั่น ยอมรับว่า ได้เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้กับรัฐบาลพิจารณา โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับข้อเสนอไปพิจารณาแล้ว
ทั้งนี้ตามข้อเสนอของ กกร. เกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ภายใต้ข้อเสนอได้กำหนดแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้รวม 3 กลุ่ม โดยเอกชนได้เสนอให้แยกวิธีการให้เหมาะสมและใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
“รองนายกฯพิชัย ได้ตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทำได้เร็ว ทั้งโครงการคูนสอง และ Easy e-Receipt ซึ่งให้เร่งทำช่วงก่อนปีใหม่ ขณะที่ปี 2568 เห็นว่า รัฐบาลก็ควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะมีความจำเป็นต่อประชาชนที่ต้องการเงินไปจับจ่าย และยังทำให้คนขายของคนงานมีงานทำมากขึ้น ในมาตรการต่าง ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ กกร. จะมีการประกาศข้อเสนออกมาอีกครั้ง” นายสนั่น ระบุ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาล รับข้อเสนอของภาคเอกชนปพิจารณา โดยการคิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะตั้งอยู่บนฐานของความเหมาะสมของช่วงเวลา และผลที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ โดยในปี 2567 นี้ประเมินว่า จีดีพีไทยน่าจะขยายตัวได้ 2.7-2.8%
อย่างไรก็ตามในการหารือครั้งนี้ นายกฯ ยังรับข้อเสนอภาคเอกชนในการฟื้นกลไกของการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ซึ่งหายไประยะหนึ่ง โดยกำหนดการจัดประชุม กรอ. อย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 6 เดือน เพื่อ กรอ. เป็นกลไกสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้เต็มศักยภาพ โดยมีเป้าหมายให้จีดีพีไทยกลับมาเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3 – 5% ในอนาคตอันใกล้ต่อไป