นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูรายละเอียด กรณีธุรกิจขายตรง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (The iCon Group) โดยในส่วนของกระทรวงการคลังนั้น ได้มอบหมายให้สรรพากรไปตรวจสอบการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัท และการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ต้องหา 18 ราย
ทั้งนี้ พบว่า ผู้ต้องหาบางรายไม่ได้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือบางรายยื่นแบบแสดงเงินได้ไม่ครบถ้วน โดยจะส่งชุดข้อมูลดังกล่าวให้กับหน่วยงานสืบสวนต่อไป เมื่อมีการร้องขอ โดยมีการประสานงานกันในเรื่องดังกล่าว กระทรวงการคลัง พร้อมให้ความร่วมมือ
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการดำเนินการออกหมายเรียกไปยังธนาคาร เพื่อให้ส่งข้อมูล และออกหมายไปเพื่อตรวจการเสียภาษี ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล
“เราต้องไปดูว่า รายได้ของผู้ต้องหา และบริษัทตรงตามที่แจ้งหรือไม่ มีรายได้เกินมาจากส่วนใด อย่างไรก็ตาม สำหรับการไม่ยื่นแบบเงินได้ ไม่ได้แปลว่าเขามีความผิด อาจจะไม่มีรายได้ในปีนั้น แต่ต้องไปพิสูจน์ทราบต่อไป”
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะเข้าไปดูการปรับแก้ ปรับระเบียบกฎหมาย พ.ร.ก.การกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ซึ่งกฎหมายดังกล่าวผลบังคับใช้มานาน ถือว่าเก่ามาก ตั้งแต่รุ่นการแชร์ลูกโซ่แม่ชม้อย
โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้มีการประชุมเรื่องดังกล่าวไปแล้ว และจะมีการหารือร่วมกันในสัปดาห์หน้า เพื่อปรับรูปแบบกฎหมายให้เท่าทันสถานการณ์ และเหตุการณ์ที่เป็นอยู่