"THTI" ดันอุตสาหกรรมนอนวูฟเวนไทย ฮับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"THTI" ดันอุตสาหกรรมนอนวูฟเวนขึ้นแท่นฮับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดจะมีมูลค่าถึง 148.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2579 และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 8.7% ต่อปี
ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย (THTI) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการผลักดัน รวมถึงยกระดับอุตสาหกรรมนอนวูฟเวน (Nonwoven Fabric) เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกอุตสาหกรรมนอนวูฟเวนของภูมิภาค
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมนอนวูฟเวนในตลาดโลกปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 50.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 148.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2579 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 8.7% ต่อปี
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นลำดับต้น ๆ ในตลาดนอนวูฟเวนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 48% และกำลังการผลิต 162,000 ตันต่อปี
โดยล่าสุดได้ดำเนินการร่วมกับสมาคมการค้าอุตสาหกรรมผ้านอนวูเว่นไทย ,MGT Expo Planning and Management Ltd, Baobab Tree Event Management Co. Ltd. และ Tradelink Co. Ltd.ส่งเสริมการพัฒนาทางเทคโนโลยี ความร่วมมือระหว่างประเทศ และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับอุตสาหกรรมนอนวูฟเวน ผ่านงาน Asia Nonwovens Technology Expo 2024 ( ANTEX Asia 2024)
ทั้งนี้จะมีการแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติด้านนอนวูฟเวนในประเทศไทย ซึ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบรับกระแสการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยกำลังปรับตัวก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงและมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตัวอย่างที่ชัดเจนในการปรับตัวตามทิศทางดังกล่าว คือ อุตสาหกรรมนอนวูฟเวน ซึ่งจัดเป็นอุตสาหกรรมดาวเด่น อนาคตไกล
ดร.ชาญชัย กล่าวอีกว่า สถาบันสิ่งทอฯ เล็งเห็นโอกาสและความพร้อมของประเทศไทยจึงมีนโยบายที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่งานดังกล่าวจะเป็นเวทีกลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ลูกค้า ผู้สนใจในเทคโนโลยี นวัตกรรม ผู้เชี่ยวชาญ และพันธมิตรทางธุรกิจจากทั่วโลกได้มีโอกาสมาพบกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เจรจาธุรกิจ
นายนิวัติ เลิศนิมิตธรรม นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมผ้านอนวูเว่นไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมนอนวูฟเวนมีมูลค่ามหาศาลในตลาดโลกและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระแสเรื่องความยั่งยืนที่ทำให้ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ้านอนวูฟเวนที่ทำจากวัสดุชีวภาพ ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติก
นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนจึงได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งหากส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกของอุตสาหกรรมนอนวูฟเวนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ จะก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาล