วันนี้ (2 ตุลาคม 2567) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กกร. ว่า กกร. เตรียมยื่นสมุดปกขาวถึงรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนประเทศ รวม 4 ข้อหลัก ดังนี้
นายสนั่น กล่าวว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กลุ่มเปราะบาง ด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ถือว่าเป็นมาตรการที่ดี แต่ กกร. คิดว่าถ้าสามารถดึงประชาชน กลุ่มอื่น ๆ ที่ยังมีความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่านี้
ทั้งนี้เห็นว่ารัฐบาลอาจต้องมีมาตรการในการช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนเพิ่มเติม เช่น การสมทบเงินเพิ่มอีกเท่าหนึ่ง หรือเป็นมาตรการคูณสอง ตัวอย่างเช่น ประชาชนใช้จ่าย 5,000 บาท รัฐบาลก็ช่วยออกอีก 5,000 บาทเป็นต้น เชื่อว่าคงจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นผลอย่างแน่นอน"
ขณะเดียวกันยังเสนอมาตรการกระตุ้นผ่านการลดหย่อนภาษี อี-รีซีท (e-Receipt) สำหรับกลุ่มที่มีรายได้ในเกณฑ์ที่เสียภาษี ก็จะเป็นการที่รัฐบาลทำมาตรการกระตุ้น โดยที่ไม่ต้องนำเงินสดออกมา และมาตรการลดราคาสินค้าตามแต่ละจังหวัด โดยทางภาคเอกชนก็ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์อยู่แล้ว เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน
"ภาคเอกชนยังสนับสนุนให้รัฐบาลสานต่อโครงการ ด้านภาคท่องเที่ยว เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยมาตรการต่าง ๆ ที่กล่าวมาเบื้องต้นก็อยู่ในรายละเอียดในสมุดปกขาวที่ยื่นไปให้รัฐบาลด้วย" นายสนั่น ระบุ
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะยังสามารถขยายตัวได้ในกรอบ 2.2% ถึง 2.7% ด้วยแรงสนับสนุนจากภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ทั้งในส่วนของการเยียวยาและมาตรการที่เข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในการฟื้นฟูกิจการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา
รวมทั้งให้ภาครัฐบูรณาการพัฒนาระบบแจ้งเตือนระดับน้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ทราบแบบ Real time ผ่านโทรศัพท์มือถือ และมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการเร่งแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตรทั้งในฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ต้นน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ด้านนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านกลุ่มเปราะบาง ด้วยการแจกเงิน 10,000 บาทนั้น โดยหลักการแล้วเมื่อแจกเป็นเงินสด ผลกระทบจะเกิดขึ้นเร็ว ซึ่งจะเข้าสู่ระบบโดยตรง และหนุนต่อไปเรื่อยๆ ตามโครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบัน
"ผลกระทบในเชิงตัวเลข อาจจะต่ำลง เพราะวงเงินที่แจกนั่นลดลง จาก 5 แสนล้านบาท เหลือเพียงประมาณ 1.4 แสนล้านบาท แต่ก็ยังเป็นผลให้ชิงบวกต่อเศรษฐกิจ" นายผยง ระบุ