นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟฯ รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า กรณีที่สาเหตุน้ำท่วมหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา
อาจมีสาเหตุร่วมจากการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย – เชียงราย - เชียงของ ในพื้นที่จังหวัดพะเยา เพราะมีงานเปิดหน้าดินและถมดินคลองแม่กา ซึ่งเป็นคลองที่จะไหลผ่านหน้ามหาวิทยาลัยพะเยานั้น
จากข้อเท็จจริงพบว่า มวลน้ำที่ไหลบ่าท่วมพื้นที่เกิดจากปริมาณฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องโดยมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 105 มิลลิเมตร
ในที่แคบบนภูเขาและลาดชันสูง มีความเร็วกระแสน้ำสูง ไหลผ่านตามคลองแม่กาลงสู่พื้นราบ โดยตามแนวคลองมีถนนพหลโยธินขนานด้านซ้าย และมีแนวทางรถไฟขนานด้านขวา
เมื่อปริมาณน้ำหลากที่มาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักมากและไหลเร็วเชี่ยว ไหลผ่านตามคลองมาถึงบริเวณใกล้เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะและมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน
ทั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการก่อสร้างถนนลำเลียงถมคลองแม่กาตามข่าว เพราะถนนลำเลียงไม่ได้ออกแบบเป็นฝายกั้นน้ำ มีการวางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.20 เมตร จำนวน 8 ท่อ ซึ่งเพียงพอต่อการระบายน้ำในสภาวะปกติ
โดยก่อนวันเกิดเหตุก็ไม่มีน้ำขังด้านเหนือน้ำในลักษณะอ่างหรือฝ่ายเก็บน้ำแต่อย่างใด แต่เนื่องจากมวลน้ำมีปริมาณมาก ไหลเชี่ยวแรง ทำให้ถนนลำเลียงถูกกัดเซาะจนขาดอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้บริเวณพื้นที่น้ำท่วมระบายน้ำไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน ซึ่งหากมองจากภาพถ่ายมุมสูง
ตามภาพแนวเส้นสีเขียวเป็นแนวทางรถไฟที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเป็นทางตัดไม่ใช่เป็นการถมดินคันทาง และไม่ได้เป็นเส้นทางระบายน้ำหรือขวางทางน้ำ
ขณะที่แนวเส้นสีฟ้าเป็นคลองแม่กา พื้นที่สีแดงเป็นบริเวณหอพักที่คลองแม่กาไหลผ่าน
เมื่อมีปริมาณน้ำหลากไหลล้นคลองประกอบมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวกจึงเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน
นายจเร กล่าวต่อว่า การรถไฟฯ ได้ให้บริษัทผู้รับจ้าง เร่งเข้าดำเนินการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่โครงการ
โดยนำถุงยังชีพไปมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม รวมถึงนำเครื่องจักรไปช่วยขุดลอกคูคลอง และลอกท่อระบายน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำขัง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้เจ้าหน้าการรถไฟฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด และให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย
อำนวยความสะดวกการเดินทางแก่ประชาชน ตลอดจนเตรียมความพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง