กลุ่มเปราะบางคือใครบ้าง มีสิทธิ์รับ 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567

14 ก.ย. 2567 | 14:00 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2567 | 17:40 น.
24.8 k

กลุ่มคนเปราะบาง 10000 คือใครบ้าง ที่อยู่ใน 14.5 ล้านคน กลุ่มแรกที่จะได้รับการโอนและแจกเงิน 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป เช็คเลยว่าคุณมีสิทธิ์หรือไม่ พร้อมเงื่อนไขและกำหนดการแจกเงินล่าสุดจากรัฐบาล

ใครคือกลุ่มเปราะบางบ้าง? และทำไมกลุ่มนี้ถึงได้รับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ก่อนกลุ่มอื่น

ก่อนหน้านี้ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 ถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 

 

โดยระบุการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในเฟสแรกจะมีการโอนเงินให้กับ "กลุ่มเปราะบาง" รวมจำนวน 14.5 ล้านคน ระหว่างวันที่ 25-30 กันยายน 2567

กลุ่มเปราะบางคือใคร?

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นงของมนุษย์ สรุปชัดเจนว่า "กลุ่มเปราะบาง" หมายถึงกลุ่มประชาชน 3 กลุ่ม นี้ประกอบด้วย:

  • ผู้มีรายได้น้อย 
  • ผู้พิการ
  • ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป

ซึ่งกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.5 ล้านคน ในปัจจุบัน ถือเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยเฉพาะผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน ซึ่งมีจำนวน 13.5 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีผู้พิการอีกจำนวน 1 ล้านคนที่ได้รับสิทธินี้ 

โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกลางปี 2567 จำนวน 145,000 ล้านบาท เพื่อแจกจ่ายในเดือนกันยายน 2567

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง  ระบุด้วยว่า สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 13.5 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีผู้ที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนแล้วกว่า 11 ล้านคน ส่วนอีก 2 ล้านคนที่ยังไม่ได้ผูกบัญชี 

"ทางกระทรวงการคลังขอแนะนำให้รีบดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อจะได้รับเงินตามกำหนด หากไม่ทันตามรอบแรกจะต้องรอรับเงินในรอบถัดไป แต่กำหนดสุดท้ายที่จะได้รับเงินไม่ควรเกินสิ้นปีนี้ มิฉะนั้น เงินจะถูกโอนกลับเข้ารัฐ"

 

วิธีการผูกบัญชีพร้อมเพย์สามารถทำได้ 3 ช่องทาง 

  • ติดต่อที่สาขาธนาคารที่มีบัญชีอยู่
  • ทำรายการผ่านตู้เอทีเอ็ม
  • ใช้บริการผ่านโมบายแบงค์กิ้ง

สำหรับการโอนเงินให้กับผู้พิการนั้น กรมบัญชีกลางมีบัญชีอยู่แล้ว และจะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีของผู้พิการในวันที่ 25 กันยายนนี้ตามกำหนด

 

ทั้งนี้ การโอนเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะดำเนินการตามลำดับดังนี้:

  • วันที่ 25 กันยายน: โอนให้ผู้พิการ 2.6 ล้านคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0
  • วันที่ 26 กันยายน: ผู้ถือบัตรที่เลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1, 2, 3
  • วันที่ 27 กันยายน: ผู้ถือบัตรที่เลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4, 5, 6, 7
  • วันที่ 30 กันยายน: ผู้ถือบัตรที่เลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8, 9

"ทางกระทรวงการคลังได้จัดกลุ่มการโอนเงินในแต่ละวันเพื่อไม่ให้กระทบกับการจ่ายเงินเดือน โดยเฉลี่ยจะโอนเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิวันละ 4-5 ล้านคน ซึ่งในวันที่ 28-29 กันยายน เป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ระบบพร้อมเพย์ปิดทำการ จึงเลื่อนการจ่ายของกลุ่มสุดท้ายไปเป็นวันที่ 30 กันยายน" ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ

 

นายกฯยืนยันเดินหน้าต่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาฯเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567ว่า รัฐบาลเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ซึ่งเป็นนโยบายที่ประชาชนและสังคมให้ความสนใจ ในฐานะนายกรัฐมนตรีขอให้ความเชื่อมั่นว่านโยบายดังกล่าวจะเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง

"โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่จะได้รับเงินดังกล่าว คาดว่าจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพได้ และยังเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลควบคู่ไปในคราวเดียวกัน" นายกฯ กล่าว
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มว่าการดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) รวมทั้งนโยบายต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาศูนย์ข้อมูลภาครัฐ การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนและการประกอบอาชีพนั้น รัฐบาลให้ความสำคัญและคำนึงถึงการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ จะดำเนินนโยบายการคลัง โดยบริหารค่าใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างเคร่งครัด

 

เริ่มโอนเงินดิจิทัล 1.45 แสนล้าน ให้กลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-คนพิการ เริ่ม 25 ก.ย. นี้

 

วันที่ 17 กันยายน 2567 มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรายละเอียดตามที่กระทรวงคลังเสนอ ประกาศมาตรการโอนเงินดิจิทัลให้กลุ่มเป้าหมายผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ กว่า 14.55 ล้านราย เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มกำลังซื้อให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและคนพิการ

โดยมีการจัดสรรงบประมาณรวมทั้งสิ้น 145,552.40 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นการโอนเงินเพื่อการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 122,000 ล้านบาท และงบสำหรับค่าดำเนินการเพิ่มเติมอีก 23,552.40 ล้านบาท

กลุ่มเปราะบางคือใครบ้าง มีสิทธิ์รับ 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567

กลุ่มเป้าหมายหลัก

  • ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 12,405,954 ราย จะได้รับงบประมาณการโอนเงินทั้งหมด 124,059.54 ล้านบาท
  • กลุ่มคนพิการจำนวน 2,149,286 ราย จะได้รับการโอนเงินรวม 21,492.86 ล้านบาท

กลุ่มเปราะบางคือใครบ้าง มีสิทธิ์รับ 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567

โดยการโอนเงินครั้งนี้จะแบ่งออกเป็นรอบตามเลขบัตรประชาชน โดยเริ่มจากกลุ่มคนพิการในวันที่ 25 กันยายน 2567 และกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จะเริ่มได้รับเงินตั้งแต่วันที่ 26-30 กันยายน 2567 ตามลำดับ

กลุ่มเปราะบางคือใครบ้าง มีสิทธิ์รับ 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567

มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีรายได้น้อยและคนพิการ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ

 

เปลี่ยนชื่อโครงการเงินดิจิทัลเป็น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา โดยมีนโยบายสำคัญที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก