จากข้อมูล Kresearch ตลาดโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี 2567 คาดว่าตลาดโรงเรียนนานาชาติจะขยายตัวได้ถึง 13% จากปี 2566 โดยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงเรียนและนักเรียน รวมถึงการปรับขึ้นของค่าเล่าเรียนเฉลี่ยที่ 3.8% การขยายตัวนี้ไม่เพียงแค่เป็นผลมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นในหลักสูตรการศึกษาต่างประเทศ แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยหลายประการ ที่เป็นแรงสนับสนุนการเติบโตของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย
ข้อมูลนี้ไม่สอดคล้องจำนวนนักเรียนในประเทศไทย ที่ในภาพรวทมีแนวโน้มจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การเติบโตของโรงเรียนนานาชาติกลับมีอัตราการขยายตัวที่สูงชัน ในปีการศึกษา 2567 จำนวนการลดลงของนักเรียนในไทยรวมลดลง 1.7% ขณะที่จำนวนนักเรียนในโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้นถึง 10.2%
ดร.แมทธิว เฟย์ ครูใหญ่ของโรงเรียนนานาชาติ DLTS กล่าวว่า การเติบโตของโรงเรียนนานาชาติในไทยสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มการศึกษาที่ก้าวหน้าทั้งในด้านการลงทุนของผู้ปกครองและความนิยมในหลักสูตรการศึกษานานาชาติ การลงทุนของเด่นหล้ากรุ๊ปใน DLTS International School เป็นการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวที่ชัดเจนของตลาดโรงเรียนนานาชาติในไทย
“การเปิดหลักสูตรใหม่และการขยายพื้นที่ จะเป็นการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการศึกษาในระดับนานาชาติ โรงเรียนของเราเน้นการเรียนการสอนในรูปแบบที่เน้นการปฏิบัติและการพัฒนาทักษะที่สำคัญสำหรับอนาคต โดยเฉพาะในด้าน STEM และ AI ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองว่าเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเตรียมความพร้อมในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”
ด้าน ดร.เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหารเด่นหล้ากรุ๊ป กล่าวว่า ตอนนี้โรงเรียนนานาชาติ DLTS International School ได้ลงทุนขยายตัวเพิ่มด้วยงบประมาณถึง 600 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของโรงเรียนและการขยายหลักสูตร STEM ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความต้องการด้านการศึกษาในระดับนานาชาติ นับเป็นแผนการขยายตัวที่ครอบคลุมการสร้างอาคารเรียนใหม่และ Club House ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงการเปิดรับนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น (Preschool – Grade 9)
โดยมุ่งเน้นการศึกษาในหลักสูตรอเมริกันที่เน้น STEM Education การลงทุนนี้จะเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้ของโรงเรียนและสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติมรวมถึง Club House ที่มาพร้อมกับ Gymnasium และ Sport Center เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการเรียนและการใช้ชีวิตของนักเรียน การลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากประสบการณ์การสอนที่ยาวนานกว่า 45 ปี ของเด่นหล้ากรุ๊ป ซึ่งได้ผลักดันให้โรงเรียนสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังขยายหลักสูตรและคุณสมบัติของโรงเรียน โดยเปิดหลักสูตรใหม่ที่ครอบคลุมเกรด 7 ถึง 9 (มัธยมศึกษาปีที่ 1-3) ให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน ที่มีความต้องการในการเปลี่ยนแปลงมาเรียนหลักสูตรนานาชาติ และเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตโรงเรียนเน้นการเรียนการสอนแบบ 3 ภาษา (อังกฤษ-ไทย-จีน) โดยอิงหลักสูตรอเมริกัน และเน้นการศึกษาในรูปแบบ STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) รวมถึงการมีวิชา AI and Innovation ที่ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้การเขียน Coding และ Programming เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต