ศาสตราจารย์ นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ข้อมูลจาก Research Intelligence วิจัยกรุงศรีได้ศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต มีแนวโน้มที่สำคัญของโลกหรือเมกะเทรนด์ (Megatrend) จากการสำรวจของ FMCG Gurus ระบุว่า ผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 79% วางแผนที่จะบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น อาหารที่ตอบโจทย์เทรนด์นี้ เช่น อาหารฟังก์ชันและอาหารโพรไบโอติกส์
โดยในปี 2564 ตลาดอาหารและเครื่องดื่มฟังก์ชันทั่วโลกมีมูลค่า 180.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในอนาคตคาดว่าตลาดอาหารฟังก์ชันโลกจะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 2.7% ต่อปี นอกจากนี้ BIS Research ยังคาดว่าตลาดอาหารโปรตีนทางเลือกจากพืช จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยถึง 14.3% ต่อปี ระหว่างปี 2564-2568 ซึ่งผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น
จากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรในอนาคต จึงทำให้ความต้องการของผู้บริโภคแตกต่างกัน ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมอาหารเช่นกัน โดยเปลี่ยนระบบนิเวศอุตสาหกรรมอาหารจากรูปแบบดั้งเดิม ที่มุ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยการจัดหาวัตถุดิบมาผลิตสินค้าและจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ มาเป็นในรูปแบบแพลตฟอร์ม (Platform) ดังนั้น ผู้ประกอบการหรือหน่วยธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัว เช่น การสร้างโอกาสใหม่ ๆ การปรับรูปแบบธุรกิจ หรือการพึ่งพาและเข้าใจเทคโนโลยีให้มากขึ้น
อย่างไรก็ดีการเปิดตัว “FoodSERP Platform” วันนี้ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ของการวิจัยแบบมุ่งเป้าที่มีพันธกิจหลักในการให้บริการการผลิตและวิเคราะห์ทดสอบอาหาร เครื่องสำอาง และส่วนผสมฟังก์ชัน ที่สำคัญเป็นการตอบโจทย์เมกะเทรนด์และทิศทางของอุตสาหกรรมอาหารที่กำลังเปลี่ยนไป และสอดรับกับนโยบายของกระทรวง อว. ที่มุ่งเน้นในด้านการวิจัยและนวัตกรรม
“กระทรวง อว. ยังมีกลไกสนับสนุนการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เป็นประโยชน์ เช่น หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศหรือ บพข. ที่มีภารกิจในการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ โดยผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศผ่านกิจกรรม เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างตลาดนวัตกรรม การส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ ผ่านกลไกต่างๆ เช่น การให้ทุนร่วม เป็นต้น”
นอกจากนี้ FoodSERP ยังมี technology platform เพื่อรองรับการต่อยอดการนำไปใช้ประโยชน์ เช่น การผลิตโพรไบโอติกสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารคนและสัตว์ และการผลิตต้นเชื้อบริสุทธิ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่มหมักเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
ที่สำคัญ FoodSERP ยังให้ความสำคัญในการทำงานกับพันธมิตรภาคเอกชน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. คือ “เอกชนนำ รัฐหนุน” รวมถึงบูรณาการความร่วมมือกับพันธมิตรหน่วยงานภาครัฐและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารอนาคต ส่วนประกอบฟังก์ชั่น และเวชสำอางให้มีทั้งคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย
“จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของ FoodSERP แพลตฟอร์ม คือการให้บริการตลอดห่วงโซ่การผลิตตามโจทย์ที่เป็นความต้องการเฉพาะ (Tailor made) ของลูกค้าในรูปแบบ One-stop service ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลกฎระเบียบและมาตรฐาน ซึ่งเป็นการสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมส่วนผสมฟังก์ชั่น (Functional ingredients) อาหารฟังก์ชั่นและเวชสำอาง จากฐานทรัพยากรชีวภาพทางการเกษตรและจุลินทรีย์ของประเทศ ลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจากต่างประเทศ"
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน FoodSERP ได้ให้บริการผู้ประกอบการแล้วจำนวนมากกว่า 250 ราย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ช่วยเร่งการพัฒนาและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ สามารถผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมได้มากกว่า 30 ผลงาน นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้ประกอบการที่กลับมาใช้บริการ (returned customers) ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หรือการใช้บริการในส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติม
ดร.กอบกุล เหล่าเท้ง ผู้อำนวยการ กลุ่มแพลตฟอร์มบริการผลิตอาหารและส่วนผสมฟังก์ชัน (FoodSERP) สวทช. และรักษาการรองผู้อำนวยการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า อุตสาหกรรมอาหารคือหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นเม็ดเงินมหาศาล ด้วยความได้เปรียบของไทยที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ในขณะที่ทิศทางของอุตสาหกรรมอาหารโลก มุ่งไปสู่อาหารใหม่ หรืออาหารฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน
ดังนั้น แพลตฟอร์มบริการผลิตอาหารและส่วนผสมฟังก์ชัน หรือ “FoodSERP” สวทช. จึงเร่งผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ ผ่านกลยุทธ์ การผนวกวิทยาการความรู้ และความเชี่ยวชาญสหสาขา เครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ใน สวทช. โดยให้บริการตลอดห่วงโซ่การผลิต
1.ส่วนผสมฟังก์ชั่น (functional ingredients)
2.โปรตีนทางเลือก(alternative proteins) และ
3.อาหารเฉพาะกลุ่ม (foods for specific group)
ครอบคลุมทั้งกระบวนการต้นน้ำ และกระบวนการปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ การพัฒนาต้นแบบ