ททท.ดึงมัมหมี ตามรอยน้องหมีเนยเที่ยวไทย “สุขทันที ที่เที่ยวกับหมีเนย”

19 ก.ค. 2567 | 14:00 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ค. 2567 | 19:49 น.

ททท.เปิดตัวโครงการ “สุขทันที ที่เที่ยวกับหมีเนย”ดึงน้องหมีเนย ถ่าย Vlog vdo ทำกิจกรรม ดึงแฟนด้อมมัมหมี ตามรอยน้องหมีเนยเที่ยวไทย

ททท.ผนึกบัตเตอร์แบร์ เปิดตัวโครงการ “สุขทันที ที่เที่ยวกับหมีเนย”ดึงน้องหมีเนย ถ่าย Vlog vdo ทำกิจกรรม กิน เที่ยว ช้อป ในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง ปล่อยคลิปแรกส.ค.นี้ กระตุ้นแฟนด้อมไทย-เทศ กลุ่มมัมหมี ตามรอยน้องหมีเนยเที่ยวไทย จัด แฟน มีต นอกสถานที่ ดึงให้คนออกเดินทางเที่ยว คาดสร้างการรับรู้ 20 ล้านคน/ครั้ง มีการออกเดินทางจริง ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน เกิดเงินหมุนเวียน ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ททท.ดึงน้องหมีเนยชวนเที่ยวไทย

นายนิธี  สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าในขณะนี้ททท.อยู่ระหว่างหารือกับทาง Butterbear เจ้าของมาสคอต “น้องหมีเนย” เพื่อร่วมทำโครงการ “สุขทันที กับ หมีเนย” กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ ให้คนอยากออกเดินทางท่องเที่ยวไทย ตามรอยน้องหมีเนย 

เนื่องจากน้องหมีเนย เป็นมาสคอตที่ทำให้คนรู้สึกได้ถึงความสุข และการสร้างรอยยิ้ม  ซึ่งก็ตรงกับแนวคิด “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ของททท.ในการส่งเสริมให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ 

นิธี  สีแพร

ดังนั้นการนำน้องหมีเนย มาเที่ยวไทย ก็จะทำให้เกิดแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวกับหมีเนย” ประกอบกับทางหมีเนยก็อยากจะทำงานเพื่อช่วยชาติ ทำให้เกิดความร่วมมือ ร่วมกันที่จะเกิดขึ้น โดยคาดว่าจะแถลงข่าวการเซ็นสัญญาร่วมกันระหว่างททท.และน้องหมีเนยได้ ภายในสิ้นเดือนกรกฏาคมนี้ หรือ ต้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อทำงานร่วมกันในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านี้ 

โดยน้อยหมีเนย จะเดินทางมาทำกิจกรรมต่างๆและท่องเที่ยวในกรุงเทพฯและจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ที่กำลังร่วมกันพิจารณาว่าควรเป็นจังหวัดไหนจะเหมาะสม อาทิ นครนายก พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นครปฐม เนื่องจากน้องหมีเนย ยังเป็นนักเรียนอยู่ อาจไม่สะดวกในการเดินทางไกล  ซึ่งน้องหมีเนย จะเดินทางไปพร้อมกับตัวละครลับ ซึ่งเป็นคนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา เป็นคนเอเชีย ที่อยู่ในวงการจีน  ไปร่วมทำกิจกรรมโปรโมทการท่องเที่ยวไทยด้วย

น้องหมีเนย

ทั้งนี้น้องหมีเนยและตัวละครลับ จะทำกิจกรรมที่เน้นใน 3 เรื่อง ได้แก่  กิน เที่ยว ช็อป activity ต่างๆเหล่านี้จะถ่ายทำออกมาเป็น Vlog vdo 3 คลิป และภาพนิ่ง life style พร้อมรูป behind the scene เพื่อจะเผยแพร่ผ่านทางช่องทางโซเชียล มีเดีย และสื่อต่างๆทุกช่องทาง ซึ่งคาดว่าจะปล่อยคลิปแรกได้ในเดือนสิงหาคม 2567 นี้ โดยททท.มุ่งเป้าหมายว่าความน่ารักของน้องหมีเนย จะดึงดูดให้คนที่เป็นแฟนด้อมน้องหมีเนย เดินทางท่องเที่ยวตามรอยน้องหมีเนย  รวมทั้งอาจจะจัดเป็น แฟน มีต นอกสถานที่ อาทิ อยุธยา นครปฐม ฉะเชิงเทรา เพื่อดึงให้คนออกเดินทางด้วย

“ททท.มองกลุ่มเป้าหมายคนที่จะเที่ยวตามรอยน้องหมีเนย คือ กลุ่มมัมหมี ( น้องหมีเนย แฟนด้อม ) และกลุ่มสตรี ที่มีกำลังซื้อสูง โดยคาดว่าจะสร้างการรับรู้ 20 ล้านคน/ครั้ง  มีการออกเดินทางจริง ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน มีเงินหมุนเวียน ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากการเดินทางจริงของนักท่องเที่ยว ในการใช้จ่ายในร้านอาหาร โรงแรม และซื้อของฝาก”

หมีเนย

ขณะเดียวกันททท.ก็เตรียมจะหารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อดึงผู้ประกอบการที่สนใจ ให้เข้าร่วมโครงการ ในการสนับสนุน Luckydraw เพื่อจัดกิจกรรม “สุขทันที เที่ยวตามรอย  หมีเนย” ด้วย อาทิ วัดอรุณ ย่านทรงวาด และพิพิธภัณฑ์ หรือทำงาน CRAFT เน้นไปที่คนเยอะๆ รวมถึงการจัดโปรโมชั่นเสริมอื่นๆ สำหรับการมีส่วนร่วม แชร์ภาพ การเดินทางท่องเที่ยวตามรอยหมีเนย อาทิ บัตรส่วนลดต่างๆ เป็นต้น

ทั้งนี้การโปรโมทในเฟสแรกจะเน้นกระตุ้นให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศตามรอยน้องหมีเนยก่อน และในระยะถัดไปจะโปรโมทเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีน ซึ่งมีฐานแฟนคลับของหมีเนยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน คาดว่าน่าจะมี 5-10% หรือ 50,000-100,000 คนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวไทยเพื่อตามรอยหมีเนย

“ปัจจุบันกลยุทธแฟนด้อม มาร์เก็ตติ้ง และ มาสคอต มาร์เก็ตติ้ง ได้รับการตอบรับในการทำตลาดเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาททท.ก็นำมาสคอตลาบูบู้ มาโปรโมทเที่ยวไทย และที่ผ่านมาก็ได้รับเสียงเรียกร้องว่าทำไมไม่มีมาสคอตไทยมาโปรโมทท่องเที่ยวบ้าง ทำให้ททท.จึงได้มีการหารือที่จะดึงน้องหมีเนยมาเป็นมาสคอตโปรโมทเที่ยวไทย” นายนิธี กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับกิจกรรม “ลาบูบู้เที่ยวไทย” ททท.ได้ร่วมกับ POP MART นำมาสคอตลาบูบู้ เดินทางมาเที่ยวไทย เมื่อวันที่ 1-4 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาตามรอย ลาบูบู้เที่ยวไทย ซึ่งนับเป็นการมาเยือนไทยครั้งแรกของลาบูบู้ เพื่อเป็นสื่อกลางในการเตรียมเฉลิมฉลองครบวาระความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีนครบ 50 ปี โดยมาสคอตลาบูบู้จะแต่งกายด้วยชุดไทย

พร้อมออกเดินทางถ่ายทำคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยสื่อสารไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ตามโปรแกรมการท่องเที่ยวของลาบูบู้ “5 Must Do in Thailand”

ททท. ได้จัดโปรแกรมในสถานที่ต่าง ๆ ไว้ อาทิ รับประทานอาหารซีฟู้ดสดใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ร้าน Horsamut Restaurant ,นั่งรถตุ๊กตุ๊ก EV เที่ยวชมความสวยงามบริเวณวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง,นวดไทยที่วัดโพธิ์,เดินเล่นแหล่งชอปปิงยอดนิยมอย่างสยามดิสคัฟเวอรี่และสยามสแควร์,ซื้อของที่ระลึกผลิตภัณฑ์จากฝีมือคนไทย,ชมศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยที่สนามมวยลุมพินี เป็นต้น

ลาบูบู้

ภายหลังการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์คลิปวิดีโอนี้ไปแล้ว ททท. เตรียมต่อยอดทางการตลาดด้วยการร่วมมือกับ Qunar.com ซึ่งเป็น Online Travel Agency (OTAs) ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจีนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแพ็กเกจให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทย ในเส้นทางกรุงเทพ และพัทยา

โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน -  1 กันยายน 2567 ซึ่งตรงกับช่วงฤดูร้อนของจีน กระตุ้นให้เกิดการเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งททท. คาดหวังว่าโครงการนี้จะสร้างการรับรู้ได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านคน - ครั้ง และสามารถเสนอขายแพ็กเกจเดินทางมาไทยได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 Pax