"ส.อ.ท." ชี้ไทยรับอานิสงส์เชิงบวก หลังสหรัฐฯจ่อขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดผยถึงกรณีที่สหรัฐประกาศปรับเพิ่มอัตราภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนอีก 25%-100% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเป็นต้นไป กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มีทั้งกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมไทยบาส่วน และไม่กระทบเลย 

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมที่จะถูกกระทบจากเรื่องดังกล่าวจะอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไทยมีซัพพายเชนที่ส่งอะไหล่ให้กับประเทศจีน โดยที่เห็นชัดเจนก็คือกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ของจีนที่จะกระทบก่อน 

แต่ไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับซัพพายเชนรถอีวีของจีน อย่างไรก็ตาม หากเป็นรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) ไทยก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับซัพพายเชนของจีนอยู่บ้าง
 

โดยสหรัฐได้ระบุไว้ว่ากลุ่มยายนยนต์จากจีนทั้งอีวี และ ICE ที่ผลิตจากจีนจะถูกขึ้นภาษีจาก 25% เป็น 102.5% 

"กลุ่ม EV ไทยจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากไม่มีกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอยู่ในซัพพายเชน แต่รถ ICE ไทยมีบ้าง แต่ไม่มาก อย่างไรก็ดีคงต้องดูสินค้าประเภทอื่นด้วยว่า หากสินค้าที่เป็นอะไหล่ หรือชิ้นส่วนจากไทยบางส่วนจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าช่วงแรกหรือไม่"

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากสงครามการค้า เมื่อสหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศจีนสูง จะต้องมีการเริ่มหาสินค้าทดแทน ไทยก็จะได้รับผลดีจากกรณีดังกล่าว เช่น เครื่องปรับอากาศ ซึ่งไทยเป็นประเทศส่งออกอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน 

ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ที่สหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าเครื่องปรับอากาศจากจีน เครื่องปรับอากาศจากประเทศไทยจึงจำหน่ายได้เป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้องนำเข้าจากไทยแทน เพราะฉะนั้น เวลานี้จึงกำลังศึกษาอยู่ว่า สงครามการค้าครั้งนี้ จะมีมาตรการปรับขึ้นภาษีน้ำเข้าจากจีน นอกเหนือจากหมวดรถ แล้วยังมีสินค้าอื่นอีกหรือไม่

หากยังมีหมวดอื่นเพิ่มเติมอีก และสินค้าจากประเทศไทยสามารถทดแทนได้ก็จะได้รับผลในเชิงบวก