วันนี้(วันที่ 10 พฤษภาคม 2567) นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งงบการเงินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 พบว่า มีกำไรสุทธิ จำนวน 2,423 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 10,100 ล้านบาท โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 2,409,546 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.10 บาท ลดลงจากปีก่อน 4.63 บาทต่อหุ้น (80.8%) โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คำนวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hour) เป็นกำไรจำนวน 14,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน
ทั้งนี้กำไรที่ลดลงหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ ขาดทุนจากการด้อยค่าของเครื่องบิน และสินทรัพย์สิทธิการใช้อุปกรณ์การบินหมุนเวียน และถึงแม้จะมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับปรุงรายได้บัตรโดยสารที่หมดอายุ และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ เป็นค่าใช้จ่ายรวม 4,036 ล้านบาท
สรุปสาระสำคัญของงบการเงินของการบินไทย ในไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567
- ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 73 ลำ
- ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบินเฉลี่ย 12.8 ชั่วโมง
- ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 10.1 %
- ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 10.1 %
- อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Ficเor) เฉลี่ย 83.59 % ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
- มีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.88 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.2 %
- ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 11,075 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 45,955 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 4,448 ล้านบาท (10.7%) สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3,539 ล้านบาท (10.1%)
- ในไตรมาสนี้การบินไทยและบริษัทย่อย ให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารไนตารางการบินฤดูหนาว ปี 2566-2567 โดยมีเครือข่ายเส้นทางบินให้บริการครอบคลุม 59 จุดบิน ใน 24 ประเทศทั่วโลก โดยเป็น 8 จุดบินในประเทศ (ไม่รวมกรุงเทพมหานคร) และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังประเทศจีน ในเส้นทางปักกิ่ง เชี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉิงดู คุนหมิง รวมทั้งในเส้นทางบินยอดนิยม อาทิ โอชากาฮ่องกง สิงคโปร์ ไทเป และบริษัทฯยังได้เปิดเส้นทางใหม่บินตรงสู่เมืองอิสตันบูล สาธารณรัฐทูร์เดีย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร
- การบินไทยและบริษัทย่อย มีรายได้จากกิจการอื่น เพิ่มขึ้น 642 ล้านบาท (32.8%) ซึ่งหน่ายธุรกิจส่วนใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนเที่ยวบิน และผู้โดยสารของสายการบินลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 868 ล้านบาท
- ในส่วนของค่าใช้จ่ายมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 34,880 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 6,407 ล้านบาท (22.5%.) โดยเพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิตและ/หรือปริมาณการขนส่ง จำนวนเที่ยวบิน จุดบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น การอ่อนค่าของเงินบาท รวมทั้งอัตรา ค่าบริการภาคพื้น และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ต่ำกว่าปีก่อน 1,959 ล้านบาท (15.0%)
- สำหรับต้นทุนทางการเงิน (ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 : TFRS 9) จำนวน 4,608 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,059 ล้านบาท (29.8%)
- ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 การบินไทยและบริษัทย่อย มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งดียวสุทธิ เป็นค่าใช้จ่ายรวม4.036 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ ขาดทุนจากการด้อยค่าของเครื่องบิน และสินทรัพย์สิทธิการใช้อุปกรณ์การบินหมุนเวียน ถึงแม้จะมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับปรุงรายได้บัตร โดยสารที่หมดอายุ และส่วนแบ่งกำไรจากเงิน ลงทุนในบริษัทร่วม
สาระสำคัญการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ได้แก่
- การปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบินและขยายเส้นทางบิน : รับมอบเครื่องบินแบบแอร์บัส A350-900 จำนวน 3 ลำ ตามแผนการจัดหาฝูงบินปัจจุบัน เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังฮ่องกง สิงคโปร์ ไทเป กาฐมาณทุ มะนิลา ภูเก็ต ซิดนีย์ โตเกียว (นาริตะ) กลับมาให้บริการไปยังเมืองเพิร์ท ประเทศ ออสเตรเสีย และเมืองโคลัมโบ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศศรีลังกา ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา
- การหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองที่ไม่ใด้ใช้ประโยชน์ในการดำนินธุรกิจ : จำหน่ายเครื่องบินแบบแอร์บัส A340-600 จำนวน 2 ลำ และโบอิ้ง 747-400 จำนวน 1 สำ
- การปรับปรุงโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน : บริษัทฯ ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน แล้วเสร็จ โดยรับโอนเครื่องบินแบบแอร์บัส A320-200 จำนวน 4 ลำสุดท้ายจากบริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ในเดือนมกราคม 2567 และให้บริการเส้นทางในประเทศเพิ่มเติม ได้แก่ เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี กระบี่ หาดใหญ่ และนราธิวาส (ทั้งนี้สำหรับเส้นทางนราธิวาส บริษัทฯ หยุดให้บริการตั้งแต่ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
อนึ่ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ และบริษัทช่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 257,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 18,119 ล้านบาท (7.6%) หนี้สินรวมมีจำนวน 297,829 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 15,696 ล้านบาท (5.6% ) ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ติดลบจำนวน 40,719 ล้านบาท ติดลบลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 2,423 ล้านบาท