“ภูมิธรรม” ดึง "สาธารณรัฐเช็ก" ลงทุน EEC ดันเจรจา FTA ไทย-อียู

27 มี.ค. 2567 | 18:15 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มี.ค. 2567 | 18:48 น.

รองนายกฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” หารือทูตเช็ก ชวนลงทุน EEC พร้อมผลักดัน soft power มวยไทย การท่องเที่ยว เร่งเจรจา FTA ไทย-อียู สร้างรายได้ให้ประเทศ

วันนี้ (27 มีนาคม 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับ นายปาเวล ปีเตล (H.E. Mr.Pavel Pitel) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ในโอกาสที่ไทยและเช็กฉลองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครอบรอบ 50 ปีที่ผ่านมา อยากผลักดันและสานความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุน

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ได้เชิญชวนให้เช็กขยายการลงทุนเพิ่มในไทย ในสาขาอุตสาหกรรมที่เช็กมีความเชี่ยวชาญและในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น การผลิตรถยนต์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการป้องกันประเทศ โดยเช็กสามารถใช้ไทยเป็นศูนย์กลางเพื่อขยายการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนได้

 

รองนายกฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” หารือเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย

 นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้หารือประเด็นการค้าสำคัญอื่น ๆ เช่น ความเป็นไปได้ในการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่ไทยและเช็กมีศักยภาพ และผลักดัน soft power เช่น มวยไทย การท่องเที่ยว ให้เป็นรูปธรรมต่อไป

รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (EU) ที่อยู่ระหว่างการเจรจา โดยได้ขอให้เช็กในฐานะประเทศสมาชิกของ EU สนับสนุนการเจรจาดังกล่าว เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาได้โดยเร็ว เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศสมาชิก EU 27 ประเทศ รวมถึงเช็กด้วย ซึ่งทูตเช็กได้แจ้งพร้อมให้การสนับสนุนการเจรจา FTA กับไทยอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน

 

รองนายกฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” หารือกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย

ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า เช็กเป็นคู่ค้าอันดับที่ 43 ของไทย และอันดับที่ 8 จาก EU โดยในปี 2566 ไทยและเช็กมีการค้าระหว่างกันรวม 1,137.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (39,387.75 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 3.62 มีสัดส่วนการค้ารวมคิดเป็นร้อยละ 0.20 ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปเช็ก 784.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (27,064.81 ล้านบาท) และไทยนำเข้าจากเช็ก 353.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (12,322.94 ล้านบาท)

สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และส่วนประกอบ แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ

ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ คือ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก