"หมอมิ้ง" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

02 ก.พ. 2567 | 19:42 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2567 | 20:39 น.
1.8 k

หมอมิ้ง รุก ดิจิทัลวอลเล็ต ยก 5 ตัวชี้วัด เศรษฐกิจวิกฤต จากกบต้มถึงท้องช้าง เคลียร์ 4 เงื่อนไขล็อค กู้เงิน 5 แสนล้าน ไม่ผ่าน กางแผนใช้หนี้คืน ปีละ 1.7 แสนล้าน ภายใน 3 ปี

วันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและรอความเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ รววถึงรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ครบถ้วนตามกระบวนการ รัฐบาลมั่นใจว่าจะออกมาได้ แม้จะมีข้อท้วงติง แต่ดูเหมือนว่ากำลังจะเบาบางลงเรื่อย ๆ เนื่องจากความต้องการและความจำเป็นของเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ     

เศรษฐกิจโตต่ำ-ฟื้นตัวช้า  

นพ.พรหมินทร์อธิบายถึงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็น ว่า เนื่องจากสถานะเศรษฐกิจวันนี้ เรียกว่ากบต้ม กว่าจะรู้ตัวก็ตายเสียแล้ว ดังนั้น รัฐบาลมองเห็นถึงสถานะเศรษฐกิจด้วยตัวชีวัด ดังต่อไปนี้ 

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

ตัวชี้วัดแรก ช่วงปี 1994-1996 อัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ย 7.3 % ปี 1999-ปี 2007 โตเฉลี่ยลดลงเหลือ 5.2 % ขณะที่ช่วงก่อนโควิด-19 ลดลงเหลือ 3.6 % จะเห็นได้ว่าเป็น Down trend มาโดยตลอด แปลว่าเศรษฐกิจโตช้า

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

ตัวชี้วัดที่สอง อัตราส่วนการเติบโตของการลงทุนเทียบกับการเติบโตของจีดีพี สัดส่วนการลงทุนของประเทศไทยต่อจีดีพีเทียบกับประเทศอื่นไทยแย่ลง เฉลี่ยปี 2014 – 2019 คิดเป็น 23.6 % หรือ การลงทุนน้อยกว่าจีดีพี แปลว่า ถอยลง วันนี้การส่งออกยังติดลบ การลงทุนยิ่งถอยลงไปมากขึ้น

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

ตัวชี้วัดที่สาม หลังจากโควิด-19 ปี 2019 การเจริญเติบของเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจช้าที่สุด จากตัวเลขติดลบ 6 วันนี้ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตัวเลขระบุว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งปี 1.8 % 

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

คนบนหอคอยสูง-ไม่เห็นทุกข์ประชาชน 

ตัวชี้วัดที่สี่ รายได้เฉลี่ยก่อนหักภาษีของประชากร ปี 2019 กลุ่มคนส่วนส่วนอยู่ใต้เส้นรายได้ 100 มีเพียงกลุ่มคนที่มีรายได้สูง (Top) เพียง 10 % ที่พ้นจากเส้น 

“เพราะฉะนั้นจึงได้เห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ถ้าอยู่บนหอคอยสูง ๆ แล้ว คุณก็จะไม่เห็นความทุกข์ของประชาชน”นพ.พรหมินทร์กล่าว 

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า สำนักที่มีการคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจ 3 สำนัก ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ สศค. ต้นปีเศรษฐกิจโต และหลังจากนั้นปรับเป้าลงมาเรื่อย ๆ แต่ความเป็นจริงโตต่ำกว่า ดังนั้น ถ้าคาดการณ์ว่าดีเกินกว่าความเป็นจริงก็จะบอกว่าไม่วิกฤต

“กำลังบอกว่า ที่คาดการณ์ไว้สูงกว่าความเป็นจริงตลอด คาดการณ์ผิดตลอด คาดการณ์ดีกว่าความเป็นจริง”นพ.พรหมินทร์กล่าว
นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า การคาดการณ์ 8 ครั้ง ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีการปรับเป้ามาโดยตลอด ความเป็นจริงไม่ตรงกับเป้าหมาย ถ้าคาดการณ์ผิดก็วางแผนผิด แนวโน้มของเศรษฐกิจ ไม่ตรงไปตามที่แต่ละสำนักคาดการณ์ 

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

ตัวชี้วัดที่ห้า การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยขึ้นสูงขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปตกลงเรื่อย ๆ 

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

สภาเป็นคนตัดสินวิกฤต-ไม่วิกฤต

นพ.พรหมมินทร์กล่าวว่า เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ยิ่งเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นมากขึ้น ข้อจำกัดต่าง ๆ ต้องทำให้รอบคอบ รับฟังความเห็นแล้วแก้ และทำให้ผ่านให้ได้ 

"ถ้าเราดูตัวเลขขณะนี้การปล่อยกู้จากธนาคาร ยอดปล่อยกู้เคยขึ้นสูงแล้วตกต่ำลงเรื่อย ๆ ปล่อยกู้ไม่ได้ เพราะกลัวหนี้เสีย (NPLs) เรื่องตราสารหนี้ (Bond) เช่นเดียวกัน ตกต่ำลงเรื่อย ๆ เพราะไม่กล้าปล่อย 
นักวิชาการเรียกปัญหานี้ว่า liquidity crisis เม็ดเงินไม่พอ โดยเฉพาะ SMEs จะมีปัญหามาก เพราะแบงก์ไม่กล้าปล่อย บอนด์ไม่กล้าปล่อย เป็นปัญหา จึงจำเป็นต้องอัดฉีดเงินเข้าระบบ"นพ.พรหมินทร์กล่าว

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ขณะนี้การร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างเดินตามขั้นตอน ความเห็นมาให้พร้อม ออกข้อเตือนมารัฐบาลก็จะแก้ตามนั้น โดยมี 4 เรื่องสำคัญที่ต้องอธิบาย คือ จำเป็น ต่อเนื่อง วิกฤต ตั้งงบไม่ทัน รัฐบาลตอบได้ทุกเรื่อง 

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า 1.มีความจำเป็นเร่งด่วน 2.มีความจำเป็นต่อเนื่อง ต่อเนื่องเพราะไม่ใช่เพิ่งเกิด กำลังกบต้มวันนี้กำลังถึงท้องช้าง อัตราเงินเฟ้อติดต่อกัน 4 เดือน หมายความว่า ความต้องการน้อยกว่าสินค้า เป็นสัญญาณที่ไม่ดี อัตราการเจริญเติบโตไม่เป็นไปอย่างที่คิด วันนี้การส่งออกติดลบ 1-2 เดือน down trend มาแบบนี้ เราคงไม่รอให้ถึงก้น 

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า 3.ต้องเป็นวิกฤต คำว่าวิกฤต หรือ ไม่วิกฤตเป็นคำที่รัฐบาลเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่ใครอื่นมาตัดสินใจ ไปดูในรัฐธรรมนูญได้ วิกฤต คือ คนเดือดร้อน สภาเป็นคนตัดสิน

“การใช้ พ.ร.บ. คือ การมอบอำนาจให้กับประชาชน เอาอำนาจของประชาชนที่เป็นตัวแทนประชาชนตัดสิน ซึ่งเราเป็นรัฐบาล เป็นคนเสนอว่า เราจะเสนอกฎหมายนี้ การเสนอกฎหมายนี้ต้องผ่านสภา ซึ่งคนที่จะตัดสินว่า สมควรหรือไม่อยู่ที่สภา ถ้าสภาไม่เห็นชอบก็ไม่เป็นไร จบ ไม่ใช่ทางลง คุณนึกหรือว่าสภาที่เราเป็นรัฐบาลจะไม่เห็นชอบ”นพ.พรหมินทร์กล่าว

ใช้หนี้คืนปีละ 1.7 แสนล้าน ภายใน 3 ปี 

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า 4.ตั้งงบประมาณปีเดียวไม่ทัน รัฐบาลต้องรักษาระเบียบวินัยการเงินการคลัง คือ ทำให้หนี้สาธารณะไม่เกิน 70 % ขณะนี้อยู่ที่ 62 % รัฐบาลใช้เพดานเก่า สมมุติเป็นหนี้ คือ เพิ่มอีก 2-3 % ไม่เกิน 4 % เมื่อฐานของจีดีพีโตหรือคืนหนี้ เพดานที่เกินมาก็จะลดลงเรื่อย ๆ ที่สำคัญยังมีที่ที่เรากำลังจะหา asset ของรัฐมาอีก

“เราตั้งงบประมาณใช้คืนหนี้ 3 ปีติดต่อกัน สมมุติ กู้ 5 แสนล้านบาท 3 ปีคิดเป็นปีละประมาณ 1.7 แสนล้านบาท เทียบกับเงินงบประมาณทั้งก้อน คือ 3.4 ล้านล้าน ประมาณปีละ 2.5 % เท่ากับรัฐบาลใช้งบประมาณ เพียงแต่เป็นงบประมาณหลายปี แต่วิธีการงบประมาณรัฐบาลบริหารงบประมาณแผ่นดิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ"นพ.พรหมินทร์กล่าว 

\"หมอมิ้ง\" กางแผนรุกดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้ 5 แสนล้านภายใน 3 ปี

นพ.พรหมินทร์ทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ได้ทำตามที่ประกาศไว้ พยายามทำให้เร็วที่สุด พยามทำให้ได้ตามเป้าหมาย หน้าที่ของรัฐบาลจะทำให้ได้ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  

“winner attitude คือ ทุกปัญหามีทางออก loser คือ ทุกทางออกมีปัญหา"นพ.พรหมินทร์กล่าว