ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FOMC (เฟด) วันที่ 30-31 ม.ค. นี้ คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50%
ทั้งนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด โดยในเดือน ธ.ค. 2566 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.4% YoY ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงค่อนข้างช้า (sticky) และยังอยู่ในระดับสูงกว่าเงินเฟ้อทั่วไปที่ 3.9% YoY จากภาคบริการและอัตราค่าเช่าที่ปรับลดลงช้า
และตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง โดยในเดือน ธ.ค. 2566 อัตราการว่างงาน (unemployment rate) ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 3.7% และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอย่างต่อเนื่องที่ 216 พันตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี มองว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาส 3/2567 และจะปรับลดดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง ในปีนี้ตามทิศทางที่ได้ให้ไว้ใน Fed Dot plot ครั้งล่าสุด จากเงินเฟ้อที่ทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายของเฟด ตามตลาดแรงงานที่ปรับเข้าสู่สมดุลมากขึ้น
รวมถึงเศรษฐกิจที่คาดว่าจะชะลอลงแบบ soft-landing หลังตัวเลข GDP สหรัฐปี 2566 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด
อย่างไรก็ตาม เฟดอาจไม่ได้ปรับลดดอกเบี้ยแรงและเร็วตามที่ตลาดคาด ข้อมูลจาก Implied Overnight Rate สะท้อนว่าเดิมตลาดคาดว่าในปีนี้เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยราว 6 ครั้ง
ก่อนจะปรับลดเป็น 5 ครั้ง ตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ทยอยประกาศออกมา ซึ่งยังเป็นการปรับลดดอกเบี้ยที่แรงและเร็วกว่าที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินไว้ โดยในระยะข้างหน้าดัชนีดอลล่าร์สหรัฐ (US Dollar Index) มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงที่เฟดไม่ได้ปรับลดดอกเบี้ยเยอะตามที่ตลาดคาดไว้ และทิศทางของเฟดมีความชัดเจนมากขึ้น