ชาวบ้านเฮ “สุริยะ” ผุดเงื่อนไขตั้งกองทุนแลนด์บริดจ์ สางปัญหาเวนคืน

24 ม.ค. 2567 | 15:47 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2567 | 15:51 น.

“สุริยะ” เปิดเงื่อนไขประมูลตั้งกองทุนแลนด์บริดจ์ ดึงเอกชนลงทุน 5 แสนล้านบาท อุ้มชาวบ้านในพื้นที่ หวังลดผลกระทบด้านเวนคืนที่ดิน-ไม่มีเอกสารสิทธิ์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) นั้น ที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่ล่าสุดพบว่ามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินของโครงการ เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิ์ถือครองโฉนดที่ดิน อีกทั้งพื้นที่ส่วนใหญ่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่ด้านการเกษตรที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะพื้นที่การปลูกทุเรียน เป็นส่วนใหญ่ 

 

“นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รวบรวมข้อมูลจำนวนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์การถือครองโฉนดที่ดิน เบื้องต้นโครงการนี้จะมีการเพิ่มเงื่อนไขในการประมูลสำหรับเอกชนที่จะร่วมลงทุน โดยให้เอกชนจัดตั้งกองทุนเพื่อนำเงินมาชดเชยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินในกรณีที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์การถือครองโฉนดที่ดิน ทั้งนี้ภาครัฐจะดำเนินการลงทุนในด้านการเวนคืนที่ดิน ขณะที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนในด้านการก่อสร้างทั้งด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน,ผลตอบแทน,งบประมาณการจัดตั้งกองทุน หากเอกชนรายใดสามารถเสนอผลประโยชน์แก่รัฐมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบและเยียวยาแก่ประชาชน”

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาโครงการนี้ได้มีการโรดโชว์แก่นักลงทุนแล้วหลายประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา,อังกฤษ ฯลฯ ขณะนี้พบว่ามีบริษัทดูไบเวิล์ดที่สนใจลงพื้นที่ดูโครงการฯด้วยตนเอง ขณะเดียวกันยังพบว่ามีบริษัทจีนสนใจในโครงการฯ หลังจากนี้กระทรวงจะเดินทางไปจีนเพื่อเชิญชวนนักลงทุนบริษัทจีนมาร่วมลงทุนด้วย 

 

“เรามั่นใจว่าโครงการแลนด์บริดจ์สามารถเดินหน้าต่อได้ เพราะโครงการฯมีความคุ้มค่า โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนในระยะแรกประมาณ 400,000-500,000 ล้านบาท ส่วนกรณีที่โครงการจะมีดำเนินการในเรื่องท่อส่งน้ำมันนั้น ปัจจุบันภาครัฐมีแผนที่จะเวนคืนที่ดินสำหรับพื้นที่ท่อส่งน้ำมันอยู่แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาคเอกชนว่าสนใจที่จะดำเนินการในเรื่องนี้หรือไม่”