เปิด 10 เทรนด์ท่องเที่ยว 2024 สร้างโอกาสท่องเที่ยวไทย

21 ม.ค. 2567 | 15:01 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ม.ค. 2567 | 15:01 น.
2.2 k

การท่องเที่ยวปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมา 100% เทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งเทรนด์การท่องเที่ยว 2024 จะเป็นเช่นไร “ฐานเศรษฐกิจ” ได้จับประเด็นจาก Booking.com, Expedia และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มานำเสนอ

เปิด 10 เทรนด์ท่องเที่ยว 2024

  • AI ผู้ช่วยการเดินทาง

ปี 2567 Expedia ระบุว่านักท่องเที่ยวสนใจใช้ Generative AI และกำลังจะกลายเป็นหนึ่งเครื่องมือที่จำเป็นสำคัญต่อการวางแผนท่องเที่ยวในอนาคต โดยนักเดินทางมีแนวโน้มจะใช้ AI เพื่อช่วยค้นหาโรงแรมหรือที่พักให้เช่า รวมถึงใช้เพื่อเปรียบเทียบตัวเลือกเที่ยวบิน โรงแรม ร้านอาหาร และใช้ค้นหากิจกรรมที่น่าสนใจ

ความฉลาดของ AI ช่วยให้การจัดการทริปท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องเปิดใจ นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มา ยกระดับการบริการ เช่น การตอบคำถาม การใช้ความช่วยเหลือลูกค้า เป็นต้น

  • หนีร้อนไปพึ่งเย็น  

หลายภูมิภาคทั่วโลกสัมผัสถึงปรากฏการณ์ “คลื่นความร้อน” รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวหาทางหนีกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวไปสู่สถานที่ที่เย็นกว่า เพื่อเยียวยาตนเอง สถานที่ที่เย็นกว่าไม่ใช่แค่ฤดูหนาว หิมะ หรือนํ้าแข็งเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวสัมพันธ์กับ “นํ้า”

เช่น ทะเล มหาสมุทร ทะเลสาป สระว่ายนํ้า ผู้ประกอบการควรปรับปรุงบริการให้ตอบสนองความคาดหวังเรื่อง “ความเย็น” เช่น การแสดงข้อมูลสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ เสริมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เครื่องปรับอากาศ ทำเลที่ตั้งที่ใกล้แหล่งนํ้า สระว่ายนํ้า หรือพื้นที่กลางแจ้ง การอัปเดตสภาพอากาศ เป็นต้น

  • นักเฟ้นหาอาหาร

คนมีแนวโน้มสนใจจะเรียนรู้ต้นกำเนิดของอาหารที่เคยรับประทาน พฤติกรรมท่องเที่ยวดังกล่าวเรียกว่า “นักเฟ้นหาอาหาร” ผู้ประกอบการท่องเที่ยวควรสร้างสรรค์อาหารที่น่าสนใจ ต่อยอดเป็นจุดขาย ลองทำงานร่วมกับคนในท้องถิ่นเพื่อหยิบยกวัฒนธรรมอาหารต้นตำรับ มานำเสนอคุณค่าแก่นักเดินทาง

การเปิดรับเทรนด์ “ตะลุยชิม” สามารถดึงดูดผู้เดินทางสายกินเข้ามามากขึ้น ผู้ประกอบการอาจนำข้อมูลเกี่ยวกับอาหารมาประยุกต์เข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาด เช่น การเชื่อมโยงเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้ หรือจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ อาทิ เวิร์กช็อปด้านอาหารในที่พัก เป็นต้น

  • หรูหรา คุ้มค่าเงิน

“ความคุ้มค่า” จะมีนํ้าหนักมากขึ้นสำหรับการพิจารณาเลือกแผนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มกระเป๋าหนัก ต้องการที่จะลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีความคิดที่จะเลือกซื้อบริการเฉพาะของทางโรงแรมแบบรายวัน แทนที่ การเข้าพักแบบปกติ เพื่อใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมหรูอีกด้วย

การยกระดับประสบการณ์ด้วยราคาสบายกระเป๋าเป็นโอกาส ผู้ประกอบการท่องเที่ยว จำเป็นต้องนำเสนอแพ็กเกจที่มีความเฉพาะและหลากหลายมากขึ้น ภายใต้ราคาที่เข้าถึงง่าย อัปเกรดประสบการณ์และข้อเสนอที่น่าสนใจได้อย่างตรงใจของนักท่องเที่ยว

  • ดื่มแอลกอฮอล์น้อย ดื่มดํ่าบรรยากาศมาก

Dry Tripping หรือ การท่องเที่ยวที่โฟกัสตัวเองและประคองสติมากขึ้น กำลังเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวที่มาแรงในกลุ่ม Gen Z  ซึ่ง Expedia อธิบายว่านักท่องเที่ยวเริ่มมีความต้องการจะออกห่างจาก “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” เพื่อรักษาสุขภาพ

คนอายุน้อยจึงมองหาประสบการณ์วันหยุดที่ไม่เน้นเรื่องการดื่ม และเชื่อว่าจะเพิ่มเวลาระหว่างการท่องเที่ยวมากขึ้น สามารถดื่มดํ่าประสบการณ์ท่องเที่ยวได้ดีกว่าที่เคย ความท้าทายของผู้ประกอบการท่องเที่ยว คือ การค้นหาบริการที่มอบความบันเทิงโดยปราศจากแอลกอฮอล์ เช่น การจัดงานศิลปะในโรงแรมการจัดฉายภาพยนตร์ บาร์ขนมหวาน หรือกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ

  • ฟินรักษ์โลก - Local experience

Booking.com เผยว่า หลังจากนี้นักท่องเที่ยวจะมีความชาญฉลาด และเพ่งเล็งนโยบายด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมากขึ้น รู้สึกดีกับแหล่งท่องเที่ยวที่มีพื้นที่สีเขียว และมีกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสัมผัสประสบการณ์ Local experience หรือ วิถีแบบคนท้องถิ่น (authentic) และเรื่องราวต่างๆ (story-telling) เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวมองหา ดึงดูด ให้นักท่องเที่ยวใช้เงินมากขึ้น และอยู่นานขึ้น

  •  ชำระเงินแบบดิจิทัลพุ่ง

ปัจจุบันการชำระเงินแบบดิจิทัลได้รับการยอมรับในวงกว้าง เพราะสะดวกและปลอดภัยกว่า จึง เห็นได้ว่าคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เลือกจ่ายผ่านบัตรแทนเงินสดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการใช้จ่ายเพื่อจองที่พักล่วงหน้า 78% และค่าตั๋วเครื่องบิน 62%

เมื่อเจาะลึกการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ พบว่า นักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย และหลายประเทศในอาเซียน เลือกวิธีการชำระผ่านบัตรแทนเงินสด ตั้งแต่การจองที่พัก ซื้อตั๋วเครื่องบิน ใช้ซื้อสินค้า รับประทานอาหาร และทำกิจกรรมต่างๆ ขณะอยู่ในไทย

  • Event Tourism มาแรง

การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม หรือ Event Tourism เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต มีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมืองและชุมชนใกล้เคียง ทั้งยังส่งเสริมวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก เป็นการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ตอบรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน จากการสำรวจความสนใจการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมในไทย พบว่าสัดส่วนของของเพศหญิงและชายใกล้เคียงกัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen-Y 

  • Wellcation เที่ยว พัก รักษา

หลังโควิด-19 คนหันมาดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น เทรนด์ “Wellcation” เป็นการผสมผสานระหว่างคำว่า “Wellness” ที่แปลว่า สุขภาวะ กับ “Vacation” ที่แปลว่า วันหยุด เป็นลักษณะของการท่องเที่ยวไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ

ควบคู่ไปกับการบำบัดและดูแลรักษาสุขภาพ เช่น การนวดสมุนไพร การเข้ารับการตรวจรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ เป็นต้น ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ผู้คนนิยมไปพักผ่อนแบบ Wellcation ซึ่งประเทศไทยก็มีจุดเด่นด้านบริการทางการแพทย์ดีติดอันดับโลกและพ่วงมาด้วยราคาอันย่อมเยา

  • Woof-cation เที่ยวมันส์ๆกับสัตว์เลี้ยง

Woof-cation เป็นเทรนด์สำหรับ Pet Lover ที่ต้องการไปเที่ยวร่วมกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก เพราะมองว่าสัตว์เลี้ยง คือ ‘สมาชิกของครอบครัว’ หากผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าใจคน เข้าใจสัตว์ด้วย จะพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยว ที่พัก การเดินทาง สถานที่ สำหรับสัตว์เลี้ยง

หรือออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมประสบการณ์ระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ให้เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง (Pet Friendly)ได้ ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องจัดการพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนพื้นที่ให้ชัดเจน คำนึงถึงสวัสดิภาพของสัตว์ ถือเป็นแนวทางสร้างจุดขายมัดใจนักท่องเที่ยว Pet Lover ได้เป็นอย่างดี

ทั้งหมดล้วนเป็นเทรนด์ท่องเที่ยว 2024 ที่จะเกิดขึ้น