หนึ่งในมาตรการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และการใช้จ่าย ไปควบคู่กับการยกระดับสุราพื้นบ้าน สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร นั่นก็คือมาตรการด้านภาษีที่เกี่ยวกับสุรา ซึ่งมีทั้งการปรับลดอัตราภาษีลง และการงดเว้นการจัดเก็บภาษี ซึ่งอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าสุรา มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนี้
สุราแช่พื้นบ้าน และมีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 7 ดีกรี เช่น อุ กระแช่ สาโท
สุราแช่ที่มีสุรากลั่นผสม และมีแอลกอฮอล์เกิน 7 ดีกรี
สุราแช่ชนิดอื่นๆ
ไวน์และสปาร์กลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่น (Wine) ราคาเกิน 1,000 บาท
ไวน์ และสปาร์กลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่น (Wine) ราคาไม่เกิน 1,000 บาท
ฟรุ๊ตไวน์ หรือ สุราแช่ผลไม้ ที่มีส่วนผสมขององุ่น หรือไวน์องุ่น ราคาเกิน 1,000 บาท
ฟรุ๊ตไวน์ หรือ สุราแช่ผลไม้ ที่มีส่วนผสมขององุ่น หรือไวน์องุ่น ราคาไม่เกิน 1,000 บาท
ทั้งนี้ สินค้าสุรามีการคิดภาษี 2 วิธีคือ คิดอัตราภาษีตามมูลค่า และคิดอัตราภาษีตามปริมาณ โดยอัตราภาษีที่ต้องชำระให้เสียภาษีทั้งอัตราภาษีตามมูลค่า และอัตราภาษีตามปริมาณรวมกัน โดยใช้ราคาขายปลีกแนะนำ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในการคำนวณภาษี แทนราคาต้นทุนการผลิต ไม่รวมค่าแสตมป์สุราสำหรับการคำนวณภาษีสรรพสามิต