กมธ.แนะฟื้น "เป๋าตัง" จ่ายเงินดิจิทัล ค้านสร้างแอปใหม่ให้เปลืองงบฯ

18 ต.ค. 2566 | 15:22 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ต.ค. 2566 | 15:34 น.
1.5 k

"วรภพ วิริยะโรจน์" ส.ส.ก้าวไกล และรองประธานคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลังฯ แนะรัฐบาลใช้ "เป๋าตัง" จ่ายเงินดิจิทัล 10000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต้องสร้างใหม่ให้เปลืองงบฯ จี้ทบทวนเงื่อนไขรัศมี 4 กิโลเมตร และปชช. ทำงานไม่ตรงทะเบียนบ้านมีจำนวนมาก

วันนี้(18ต.ค.66) มีการหารือถึงการแจกเงิน เงินดิจิทัล 10000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ระหว่างคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง สถาบันการคลังและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร กับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10000 ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.ก้าวไกล ในฐานะ รองประธานคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง สถาบันการคลังและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันในประเด็นเงินดิจิทัล โดยรมช.คลังกล่าวว่าอยู่ระหว่างกระบวนการหาข้อสรุปในระหว่างอนุกรรมการที่ ครม.แต่งตั้ง ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะรีบชี้แจง เป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ายังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ 

รองประธานกมธ. ระบุอีกว่า เรื่องแอปพลิเคชั่นที่จะใช้โครงการเงินดิจิทัล 10000 บาท ในส่วนนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ส่วนตัวยืนยันว่า "แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง" สามารถนำมาใช้ในโครงการนี้ได้เลย ไม่จำเป็นที่รัฐบาลจะสร้างแอปพลิเคชั่นใหม่ขึ้นมาเพื่อให้เกิดการซ้ำซ้อน และสิ้นเปลืองงบประมาณ 

"เพราะแอปพลิเคชั่นเป๋าตังมีความพร้อมอยู่แล้ว จะวางเงื่อนไขอะไรแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ก็สามารถทำได้ ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมาธิการให้ความสนใจ" นายวรภพ กล่าว
  
นายวรภพ กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะให้รัฐบาลหรือคณะกรรมการที่ ครม.แต่งตั้ง ทบทวนเงื่อนไขที่มีปัญหา เช่น การใช้ได้ในรัศมี 4 กิโลเมตร หรือภายในอำเภอ โดยสะท้อนไปในฐานะประชาชนที่ไม่ได้ทำงานอยู่ในพื้นที่ตามสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้ให้คำตอบว่า เงื่อนไข 4 กิโลเมตรไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขที่คณะกรรมการพูดคุยกัน แต่ว่าจะใช้ในเขต ตำบลอำเภอ จังหวัดอย่างไร ยังไม่ได้ข้อสรุป

   

"จึงได้ยืนยันไปว่าในประชาชนที่ได้ย้ายถิ่นฐานไปแล้ว แต่ทะเบียนบ้านอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง แล้วทำงานอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง มีจำนวนมาก หากดูจากการใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตที่มี 2 ล้านกว่าคน จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้เพราะมีประชาชนเดือดร้อนจริงๆ ถ้าต้องเดินทาง จ่ายเงินร้อยหลักพันเพียงเพื่อไปใช้เงินดิจิทัล รัฐมนตรีได้รับปากว่าจะนำกลับไปทบทวน"

รองประธานกมธ. กล่าวอีกว่า ต้องการให้กระทรวงการคลังทำข้อสรุปออกมาว่ามีความคุ้มค่าอย่างไร และโครงการมีความเหมาะสม และมีความคุ้มค่าต่อทางเศรษฐกิจและการใช้ภาษีงบประมาณของประชาชนอย่างไร ซึ่งมีนักวิชาการ และนักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่าโครงการนี้ไม่คุ้มค่า ในส่วนนี้รัฐมนตรีได้รับเรื่องและจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำข้อสรุปเรื่องนี้ออกมาให้เร็วที่สุด