เศรษฐกิจจีนทรุด “คลัง” หวั่นกระทบส่งออก-ท่องเที่ยว

23 ส.ค. 2566 | 11:28 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ส.ค. 2566 | 11:28 น.

รมว.คลัง ประเมินเศรษฐกิจจีนทรุด หวั่นกระทบส่งออก-ท่องเที่ยว ระบุจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยยังคงเป้า 29.5 ล้านคน หลังนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน-ยุโรปเพิ่มขึ้น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจจีนล่าสุด ถือมีการขยายตัวต่ำกว่าที่หลายสำนักคาดการณ์กันไว้ ขณะที่การประมาณการของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มองว่านักท่องเที่ยวจีนจะมาเยอะนั้น สถานการณ์ปัจจุบันก็ยังจำกัดอยู่

ทั้งนี้ ยอมรับว่าอาจจะมีผลกระทบบ้าง อีกส่วนที่กระทบก็คือ เรื่องงการส่งออกจากไทยไปจีน อย่างไรก็ตาม ในปี 2566นี้ ไทยก็ได้ส่งออกไปจีนเยอะ โดยเฉพาะหมวดอาหาร ผลไม้ เช่น ทุเรียน เป็นต้น แต่บังเอิญ ด้านไทยเองก็ผลผลิตไม่ดี น้อยกว่าปกติ ก็อาจจะทำให้การส่งออกจำกัดไปด้วย

“เรื่องของเศรษฐกิจจีนนั้น ก็อาจจะมีผลบ้างในเรื่องการท่องเที่ยวกับการส่งออก ซึ่งในเรื่องการท่องเที่ยวจากจีนก็อาจจะมาล่าช้าก็ที่คาด แต่ในแง่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ยังไม่ได้ปรับเป้าหมายจาก 29.5 ล้านคนต่อปี เนื่องจากมีส่วนที่ทดแทนอยู่ คือ นักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน และจากทวีปยุโรปนั้นยังไม่ลดลง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย ” นายอาคม กล่าว

สำหรับเศรษฐกิจโลก คงมีการกระทบกันโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะจีน ยังมีสหรัฐอเมริกาอีก  แต่ขณะนี้ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความกังวลเรื่องของนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ยังคงมีอยู่ หลายฝ่ายคงมีการปรับตัวกันในระยะต่อไป

ส่วนกรณีที่สหรัฐ ถูกปรับลดอันดับเครดิตลงนั้น คงทำให้ต้นทุนการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น จึงเหตุผลที่ทำไมทุกประเทศต้องรักษาเครดิต มุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศตัวเองไว้ ซึ่งประเทศไทยนั้นยัง อยู่ในมุมมองระดับมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เรื่องผลกระทบจากกรณีสหรัฐนั้น อาจส่งผลไปยังเอกชน และตลาดพันธบัตร ตลาดทุนบ้าง

“สิ่งที่มั่นคงมากคงเป็นเรื่องของพันธบัตรรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ตาม ส่วนหุ้นกู้ ก็มีความเสี่ยงบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าจะนำเงินระดมทุนในหุ้นกู้ไม่ใช้ทำอะไร แต่ขณะนี้เอกชนไทยก็ออกหุ้นกู้ คือใช้ตลาดทุนมากขึ้น ซึ่งก็เป็นแนวในการพัฒนาตลาดทุนไทยอยู่แล้ว”นายอาคม กล่าว