นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ดีพร้อมได้ดําเนินงานขับเคลื่อนโครงการ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการยกระดับในทุกองค์ประกอบของภาคธุรกิจอุตสาหกรรม เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมคู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมและยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และประชาชนแล้วกว่า 28,000 ราย สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 5,000 ล้านบาท ผ่าน 4 กลไก ประกอบด้วย
- โตได้ (START) สนับสนุนให้เกิดการเริ่มต้นธุรกิจ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก และยกระดับเกษตรกรสู่นักธุรกิจเกษตรผ่านโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม การยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจชุมชน การจัดตั้งและขยายธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน รวมทั้งการส่งเสริมและพัฒนาสตาร์ทอัพของไทย โดยในปี 2566 สามารถขยายเครือข่ายสตาร์ทอัพ เครือข่ายเงินทุน และเครือข่ายตลาดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 1,000 ล้านบาท
- โตไว (SPEED) ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีมีความเข้มแข็งและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการลดต้นทุน สร้างมาตรฐาน เพิ่มผลิตภาพ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อาทิ การสร้างและพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ การปรับธุรกิจให้รองรับการเปลี่ยนแปลง การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจไทยด้วยดิจิทัล การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดหลัก “เปลี่ยนค่าใช้จ่ายเป็นเงินทุน เปลี่ยนต้นทุนเป็นกําไร” เพื่อให้เกิดการลดต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ โดยในปี 2566 สามารถลดต้นทุนโลจิสติกส์และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,800 ล้านบาท
- โตให้ยั่งยืน (SUSTAINABLE) ทําให้อุตสาหกรรมเติบโตคู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง BCG Model ที่เน้นรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชน สนับสนุนปัจจัยเอื้อต่อธุรกิจและเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐผ่านการดําเนินงานต่าง ๆ อาทิ การยกระดับธุรกิจเอสเอ็มอีด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG แบบรอบด้าน รวมทั้งเชื่อมโยงงานวิจัยเพื่อพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมจากไบโอพลาสติก การสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยการนําของเสีย หรือวัสดุเหลือใช้จากภาคอุตสาหกรรมและเกษตร ตลอดจนการยกระดับพืชกัญชงซึ่งได้พัฒนาเครื่องคัดแยกวัตถุดิบและเครื่องคัดแยกเส้นใยนําร่องสู่การแปรรูปเป็นวัสดุเส้นใยแห่งอนาคต นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกโดยการให้คําแนะนําติดตั้งโซล่าเซลล์ภายในโรงงานเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและคาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กว่า 500,000 กิโลคาร์บอนต่อปี
อย่างไรก็ดี ดีพร้อมยังได้มีการเชื่อมโยงและขยายโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการจัดงานแฟร์และการจับคู่ธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ อุตสาหกรรมแฟร์ ด้วยการเปิดพื้นที่สร้างช่องทางการจําหน่ายและขยายโอกาส รวมถึงเชื่อมโยงอุตสาหกรรมกับชุมชน ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 860 ล้านบาท และงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติต่าง ๆ โดยก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3,380 ล้านบาท
นอกจากนี้ ดีพร้อม ยังได้ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก หนึ่งในฟันเฟืองการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านโมเดลชุมชนดีพร้อม เพื่อบูรณาการผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและจิตสาธารณะ หรือดีพร้อมฮีโร่กับชุมชน จํานวน 21 ราย และประสานประโยชน์ไปยังชุมชนต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรมกว่า 3,080 ครัวเรือน 10,900 ราย และกระตุ้นให้เกิดการกระจายรายได้กว่า 600 ล้านบาท
"ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวและการบริโภคของภาคเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวอันส่งผลดีกับภาคอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย จึงได้เร่งดําเนินการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็งในทุกมิติ ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน"
สําหรับในครึ่งปีหลัง 2566 นี้ ดีพร้อมมีแผนที่จะส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างเข้มข้นและครบทุกมิติผ่านกลไกลนโยบายดีพร้อม 4 โต โดยเน้นเรื่องการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการตลาดออนไลน์ การเชื่อมโยงและขยายโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการต่อยอดความสําเร็จของโครงการอาชีพดีพร้อมและนักส่งเสริมอาชีพดีพร้อมด้วย Soft Power ด้านอาหาร หรือเมนูเด็ดดีพร้อม เพื่อยกระดับศักยภาพตามแนวทาง Soft Power ให้แก่ชุมชนนำร่อง 22 ชุมชนทั่วประเทศ โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2566 นี้ จะสามารถกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน