"กนอ." ผุดไอเดียใช้ "AI" ตรสจสอบการทำงานนิคมอุตสาหกรรม

26 ก.ค. 2566 | 12:18 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ค. 2566 | 12:18 น.

"กนอ." ผุดไอเดียใช้ "AI" ตรสจสอบการทำงานนิคมอุตสาหกรรม ช่วยวางแผนการซ่อมบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนความสูญเสียจากความผิดปกติของเครื่องจักร พร้อมเล็งต่อยอดระบบ Digital Twin

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.มีความสนใจที่จะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการบริหารการทำงานนิคมอุตสาหกรรม  

ทั้งนี้ กนอ. ได้เริ่มนำร่องใช้ระบบ Digital Twin ในการบริหารงานที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ตั้งแต่กลางปี 2565 ซึ่งโครงการแล้วเสร็จเมื่อมิถุนายน 66 ที่ผ่านมา และจะนำไปขยายผลในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ต่อไป

สำหรับระบบ Digital Twin คือ การทำแบบจำลองเสมือนของพื้นที่อาคาร และอุปกรณ์ในอาคารในรูปแบบ 3 มิติ BIM (Building Information Modelling) ซึ่งนอกจากจะเก็บข้อมูลทรัพย์สินและอุปกรณ์ต่างๆ ในรูปแบบดิจิทัลแล้ว ยังเชื่อมโยงข้อมูล Big Data ต่างๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบระบายน้ำ 
 

การติดตามตรวจสอบมลพิษทางอากาศของนิคมฯ การเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการจากระบบอนุมัติ-อนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-PP : e-Permission Privilege) ข้อมูลการระงับเหตุจากระบบฐานข้อมูลการระงับเหตุ (Decision Support System : DSS) 

กนอ. ผุดไอเดียใช้ AI ตรสจสอบการทำงานนิคมอุตสาหกรรม

ข้อมูลการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ข้อมูลการระบายมลพิษจากระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติต่อเนื่อง (CEMS : Continuous Emission Monitoring System) 

ข้อมูลด้านความปลอดภัยกระบวนการผลิตและสารเคมีอันตรายจากระบบการจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต (Process Safety Management: PSM) 

และการเชื่อมโยงระบบที่เกี่ยวข้องกับ SMART I.E. ด้วย โดยใช้ AI เป็นตัวประมวลผล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม ด้วยการใช้ข้อมูลที่มีความถูกต้องแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา
 

นายวีริศ กล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และโรงงาน ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกลุ่มมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จังหวัดระยอง เริ่มที่นิคมอุตสาหกรรม อาร์ ไอ แอล  ซึ่งนิคมฯ แห่งนี้ประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 2539 บนพื้นที่ 2,000 ไร่ โดยอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย และได้รับการตรวจประเมินเป็นนิคมอุตสาหกรรมระดับ Eco World Class ตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ (Environment and Health Impact Assessment : EHIA) เพื่อขยายพื้นที่ในนิคมฯ ประมาณ 500 ไร่ ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนแสดงความสนใจเข้าจับจองพื้นที่แล้ว 

นอกจากนี้ ยังไปที่บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จํากัด หรือ MOC ซึ่งได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ด้านความปลอดภัย และติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งได้เดินทางไปยัง บริษัท ระยองวิศวกรรมและซ่อมบำรุง จำกัด (REPCO NEX Industrial Solutions) ซึ่งบริษัทแห่งนี้พัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี โดยใช้ AI ช่วยในการตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อวางแผนการซ่อมบำรุงที่มีประสิทธิภาพ 

รวมถึงการลดต้นทุนที่เกิดความสูญเสียจากความผิดปกติของเครื่องจักร จนเกิดเป็นธุรกิจใหม่ สำหรับการนำระบบ AI มาช่วยในการทำงานของโรงงานแห่งนี้ เป็นสิ่งที่ กนอ. ให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากสอดคล้องกับ