อุปสรรคเพียบ นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยปีนี้ ส่อพลาดเป้า 5 ล้านคน

13 ก.ค. 2566 | 01:00 น.
736

อุปสรรคเพียบ นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยปีนี้ ส่อพลาดเป้า 5 ล้านคน ล่าสุดเพิ่งเดินทางเข้ามา 1.55 ล้านคนเท่านั้น ตลาดกรุ๊ปทัวร์ยังฮวบ ส่งผลให้ธุรกิจที่รับทัวร์และโรงแรมที่รับตลาดจีน ก็ยังไม่สามารถไปต่อได้

ปัจจุบันไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าเที่ยวแล้วกว่า 13 ล้านคน (วันที่ 1 ม.ค.-9 ก.ค.66) ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มั่นใจว่าปีนี้น่าจะได้ตามเป้าหมายไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน  แต่จะถึง 30 ล้านคนอย่างที่ลุ้นกันไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ยังไม่ชัด เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญส่อแววจะพลาดเป้าจาก 5.3 ล้านคนที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้

เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีจนถึง ณ วันที่ 9  ก.ค.2566 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยอยู่ที่ 1.55 ล้านคนเท่านั้น แม้ว่าตั้งแต่รัฐบาลอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีน สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 สายการบินทยอยเพิ่มเที่ยวบินจากจีนเข้าไทยต่อเนื่อง โดยในช่วงเม.ย.-ต.ค.นี้ มีจำนวนที่นั่งบนเครื่องบินจากจีนเข้าไทย รวม 6,008,570 ที่นั่ง รวมถึงการทำตลาดอย่างหนักของททท.

 

ดังนั้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ จึงยังต้องรอลุ้นว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเติมอีก 3.45 ล้านคนเพื่อให้ได้ตามเป้าได้หรือไม่  ซึ่งยังต้องรอดูในเดือนตุลาคมนี้ ที่จะเป็นช่วงวันชาติจีน  อย่างไรก็ตามการที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาได้ไม่มากนัก เกิดจากอุปสรรคในหลายเรื่อง ทั้งปัจจัยภายในประเทศไทยและปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งปี 2566 จะไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 5 ล้านคน เพราะเป็นเรื่องยาก เพราะเพิ่งเข้ามาแค่ 1.4 ล้านคนเท่านั้น

อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์

สาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางเข้าประเทศไทยน้อยกว่าที่ตั้งเป้าหมาย เป็นเพราะกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ตั้งเงื่อนไขการอนุมัติวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีน(E-VISA) ที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันกลุ่มจีนเทา หรือ แก๊งชาวจีนที่เข้ามาหากินแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายในไทย

อาทิ นักท่องเที่ยวจีนที่ต้องการขอวีซ่าเข้าไทย ต้องมีหลักฐานแสดงเงินในบัญชีธนาคาร (Statement) เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 50,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.5 แสนบาท ถือเป็นการสร้างเงื่อนไขที่ยากยิ่งกว่าการเดินทางไปเที่ยวยุโรปหรือสหรัฐเสียอีก

นอกจากนี้ กต.ยังได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฝั่งจีน ให้ช่วยตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง ก่อนอนุมัติให้ชาวจีนออกนอกประเทศมาเที่ยวไทย
 

ส่งผลให้เกิดความยุ่งยาก เป็นการเข้มงวดกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจริงๆ ที่เดินทางมากับบริษัททัวร์ ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกับจีนเทา เพราะกลุ่มจีนเทาจะไม่มาขอวีซ่าร่วมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์อยู่แล้ว แต่จะเดินทางมาจากประเทศที่ 3 หรือถือหนังสือเดินทางของชาติที่ 3 เข้ามาแทน ซึ่งมาตรการตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางและเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวจีน ไม่ได้กระทบแค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อนักธุรกิจชาวจีนอีกด้วย

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ข้อจำกัดเรื่องการอนุมัติวีซ่านักท่องเที่ยวจีนที่ล่าช้าและยุ่งยากกว่าเดิม เอกชนเรียกร้องขอให้ยืดหยุ่นมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเงื่อนไขวีซ่าตอนนี้ทำให้คนจีนจะมาเที่ยวไทยก็ตัดสินใจที่จะไม่มาแทน เพราะเงื่อนไขการอนุมัติวีซ่าที่ยากเหลือเกิน ทำให้ตลาดจีนเที่ยวไทยชะลอตัวทั้งที่ความต้องการ (ดีมานด์) อยากเข้ามาเที่ยวไทยยังมีอยู่

อุปสรรคเพียบ นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยปีนี้ ส่อพลาดเป้า 5 ล้านคน

ส่วนคนที่อยากมาเที่ยวไทยมากจริงๆ ก็มาผ่านวีซ่า Visa on Arrival ( VOA) หรือวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองในประเทศ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มาพบว่า วีซ่าแบบวีโอเอก็ไม่ได้ทำง่าย เพราะต้องรอการตรวจสอบและพิจารณา ที่ต้องรอในสนามบิน 4-5 ชั่วโมง แบบนี้ทรมานมาก พอเจอแบบนี้นักท่องเที่ยวจีนก็คิดหนักในการเข้ามาเที่ยวไทย ซึ่งก็น่าสงสารเหมือนกัน ที่จะเข้ามาเที่ยวแล้วต้องเจอแบบนี้

ไม่เพียงแต่เรื่องปัญหาวีซ่าเท่านั้น ล่าสุดหลายประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะญี่ปุ่น ก็ทำให้ไทยถูกดึงตลาดออกไปส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว จากผลกระทบของโควิด -19 หลังจีนปิดประเทศไปนานหลายปี นักท่องเที่ยวจีนชะลอการเดินทางเที่ยวต่างประเทศ     

นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยวันนี้ ส่วนใหญ่จึงเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT (เดินทางเที่ยวด้วยตัวเอง) กลุ่ม Family นิยมเดินทางท่องเที่ยวเป็นครอบครัว รวมทั้งมาท่องเที่ยวพร้อมส่งบุตรหลานศึกษาต่อหรือเข้าร่วม Summer Camp ในเมืองไทย ซึ่งกลุ่มนี้นิยมเดินทางรวมกับเพื่อนหรือญาติที่ใกล้ชิดกัน ขนาด 3-4 ครอบครัว มีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมดไม่เกิน 10 คน กลุ่มนักธุรกิจ หรือถ้ามาเป็นกรุ๊ปทัวร์ก็จะเป็นกรุ๊ปเล็กๆใช้รถตู้ หรือบัสเล็ก มากกว่ารถบัสขนาดใหญ่เหมือนในอดีต

ด้วยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยววันนี้ทำให้กลุ่มโรงแรมระดับ 4-5 ดาวจะได้รับอนิสงค์ โดยเฉพาะโรงแรมเชน แต่สำหรับธุรกิจที่รับทัวร์และโรงแรมที่รับตลาดจีน ก็ยังไม่สามารถไปต่อได้

อุปสรรคเพียบ นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยปีนี้ ส่อพลาดเป้า 5 ล้านคน

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนปีของปีนี้ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเดือน มิ.ย. มีอัตราเข้าพักอยู่ที่ 60.65% เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. ที่อัตราเข้าพักอยู่ที่ 57.6% ส่วนตลอดปี 2566 คาดว่าอัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ 60-65% ซึ่งอัตราเข้าพักทั้งปีจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

อุปสรรคเพียบ นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยปีนี้ ส่อพลาดเป้า 5 ล้านคน

นั่นหมายถึงนักท่องเที่ยวจีนต้องเดินทางเข้ามาไทยได้ตามเป้าหมายขั้นต่ำ 5 ล้านคน แต่หากจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ อัตราการเข้าพักทั้งปีเฉลี่ย น่าจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของจำนวนห้องพัก

อีกทั้งอยากให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งมีขนาดใหญ่และเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ต้องมีหน่วยงานกำกับดูแลอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย จนเรื่องที่ผิดกฎหมาย กลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย อยากให้ทำให้สิ่งที่ถูกต้อง เพื่อความเป็นธรรมและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย

“ภาครัฐและผู้ประกอบการต้องมาร่วมกันคลี่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยว หากไม่ลุกขึ้นมาทำอะไร หรือเตรียมความพร้อม เพื่อความยั่งยืนของภาคการท่องเที่ยว กังวลว่ากลุ่มทุนต่างชาติจะเข้ามาทำธุรกิจแบบเดิมในไทย เหมือนอดีตก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่กลุ่มคนจีนเข้ามาซื้ออพาร์ตเมนต์รับนักท่องเที่ยวจีนเสียเอง” นางมาริสา กล่าวทิ้งท้าย

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวจีนปี 2566 น่าจะเดินทางเข้าไทยเกิน 4 ล้านคนแน่นอน แต่ยังต้องลุ้นเป้าหมาย 5 ล้านคน ปัจจุบันจากปริมาณที่นั่งเส้นทางบินระหว่างไทย-จีน มีจำนวน 6 ล้านที่นั่งในปีนี้ ฟื้นตัวประมาณ 40% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิดระบาด 40% ซึ่งมีกว่า 13 ล้านที่นั่ง

อุปสรรคเพียบ นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยปีนี้ ส่อพลาดเป้า 5 ล้านคน

โดยตลาดที่ยังไม่กลับมาคือกรุ๊ปทัวร์ เพราะยังติดข้อจำกัดเรื่องการขอวีซ่า ขณะที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยสะสม 1.6 ล้านคน เฉลี่ยเดินทางเข้ามา 1.2-1.5 หมื่นคนต่อวันในช่วงนี้ จึงประเมินว่าในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ จะเดินทางเข้ามากกว่า 2 ล้านคน โดยเฉพาะจากกลุ่มนักเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (อินเซนทีฟกรุ๊ป) ที่กำลังฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เศรษฐกิจจีนในปัจจุบัน ทำให้ทางการจีนมีนโยบายสกัดการเดินทางออกนอกประเทศ ขณะเดียวกันด้วยต้นทุนการเดินทางสูงขึ้น อาทิ ค่าตั๋วเครื่องบินที่ยังค่อนข้างแพง รวมถึงค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าจากสถานกงสุลไทยอยู่ที่ 200 หยวน ส่วนค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าหน้าด่าน (Visa on Arrival: VoA) อยู่ที่ 500 หยวน แม้แพงกว่า แต่ยอมจ่าย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ททท.ได้เปิดตัว E-VoA ร่วมกับอาลีเพย์ (Alipay) ที่นครหางโจว ประเทศจีน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจีนในขั้นตอนการจ่ายค่าธรรมเนียม ใช้เวลาการกรอกข้อมูลและชำระเงินไม่เกิน 10 นาที โดยข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ พบว่ากว่า 87% ของนักท่องเที่ยวจีน เลือกขอวีซ่า VoA

แต่อย่างไรก็ตาม ททท.ก็ยังรอตลาดกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่กลับมา ซึ่งพึ่งพาการขอวีซ่าผ่านช่องทางของสถานกงสุล ซึ่งขณะนี้ ททท. ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) อยู่ระหว่างพัฒนาโปรแกรม VPSS (Visa Pre-Screening System)

“นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มมีกำลังซื้อ ใช้จ่ายสูง สอดรับกับยุทธศาสตร์ของ ททท.ในการดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ ซึ่ง 5 สำนักงาน ททท.ในประเทศจีนตอนนี้กำลังเร่งสปีดทำการตลาดอย่างเต็มที่ โดยพฤติกรรมการเดินทางเปลี่ยนไปชัดเจน พบว่านักท่องเที่ยวจีนนิยมเที่ยวเชิงลึกและอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น พัทยา หรือ ภูเก็ต นานวันขึ้น ไม่ได้กระจายการเดินทางให้ครอบคลุมหลายพื้นที่มากที่สุดเหมือนแต่ก่อน” นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย