ผ่าธุรกิจ “เปรม กรุ๊ป” กำไรอู้ฟู่ ลุยเดี่ยวประมูลพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดให้เอกชนยื่นประมูลสัญญาโครงการยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่ เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือ สถานีกลางบางซื่อ หลังจากขายซองประมูลไปแล้วและมีเอกชนให้ความสนใจซื้อเอกสารประกวดราคา จำนวน 3 ราย 

แต่เมื่อถึงกำหนดการยื่นซอง เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีเอกชนยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว คือ บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยที่เอกชนอีก 2 เจ้าที่เข้ามาซื้อซองประมูล ทั้ง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ซื้อไปแต่กลับไม่ได้เข้ามายื่นข้อเสนอ 

โดยในขั้นตอนต่อไป การรถไฟฯ ระบุว่า จะเริ่มขั้นตอนพิจารณาข้อเสนอของเอกชน แม้ว่าจะมีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียวก็ตาม

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟฯ ระบุว่า การพิจารณาด้านประสบการณ์และคุณสมบัติ ของเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอ ที่พบว่าอาจยังไม่มีผลงาน หรือไม่ได้อยู่ในธุรกิจบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์มาก่อนนั้น รฟท.ขอใช้เวลาพิจารณาคุณสมบัติของเอกชนนั่นคือ บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ก่อน 

“เปรมกรุ๊ป” ลุยเดี่ยว ชิงซองประมูลพื้นที่ “สถานีกลางบางซื่อ”

จากกรณีข้างต้น ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลของ บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผ่านระบบบริการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจร Creden Data จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลการดำเนินธุรกิจที่น่าสนใจของ บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง ดังนี้

บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2549 ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ล่าสุดแจ้งว่า ดำเนินธุรกิจประเภทการผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น โดยมีวัตถุประสงค์ในการผลิตติดตั้ง จำหน่ายป้าย เครื่องหมายสัญลักษณ์การจราจร จัดหาวัสดุเครื่องมือต่าง ๆ

ข้อมูลงบการเงินนำส่งปีล่าสุด 2565 พบว่า บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง มีสินทรัพย์ รวม 616,597,330 บาท หนี้สินรวม 90,263,142 บาท โดยมีรายได้รวม 451,040,478 บาท รายจ่ายรวม 137,832,433 บาท ผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิ 285,987,792 บาท

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2561-2565 พบว่า บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง มีผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิต่อเนื่อง แบ่งเป็น

• ปี 2561 จำนวน 72,520,339 บาท
• ปี 2562 จำนวน 262,367,165 บาท
• ปี 2563 จำนวน 234,771,773 บาท
• ปี 2564 จำนวน 159,251,842 บาท
• ปี 2565 จำนวน 285,987,792 บาท

สำหรับกรรมการบริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง พบว่ามีนายปฏิกร พิทักษ์ฉนวน เป็นกรรมการบริษัท ส่วนผู้ถือหุ้น 3 คน คือ ปฏิกร พิทักษ์ฉนวน ถือหุ้นสัดส่วน 99.80% จำนวน 998,000 หุ้น พลากร สุทธิสุนทร ถือหุ้นสัดส่วน 0.10% จำนวน 1,000 หุ้น และ สุรีรัตน์ อยู่นิรันดร ถือหุ้นสัดส่วน 0.10% จำนวน 1,000 หุ้น

ขณะที่ ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา พบว่า บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง เป็นคู่สัญญาในการรับงานของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งสิ้น 62 รายการ รวมมูลค่างานที่ได้รับจากภาครัฐ 1,607,721,600 บาท โดยในปี 2565 พบข้อมูลการรับงานของหน่วยงานภาครัฐ ดังนี้

1. งานจ้างซ่อมบำรุงรักษา สอบเทียบ พร้อมจัดหาอะไหล่ระบบเครื่องฉีดสาร Marker และระบบควบคุม กำกับ ดูแล และตรวจสอบปริมาณการจ่ายสาร Marker โดยวิธีคัดเลือก ของกรมสรรพสามิต วงเงิน 8,113,600 บาท
2. งานจ้างโครงการซ่อมบำรุงรักษาระบบสถานีเครือข่ายระบบตรวจสอบและเฝ้าระวังเรือ Tanker ที่จำหน่ายน้ำมันให้แก่ชาวประมง โดยวิธีคัดเลือก ของกรมสรรพสามิต วงเงิน 4,580,000 บาท
3. งานประกวดราคาจ้างโครงการย้ายและปรับปรุงศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปราม พร้อมจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของกรมสรรพสามิต วงเงิน 19,470,000 บาท
4. งานจ้างโครงการจ้างซ่อมบำรุงรักษาระบบควบคุมน้ำมันที่ส่งออกนอกราชอาณาจักรทางบก โดยวิธีคัดเลือก ของกรมสรรพสามิต วงเงิน 3,080,000 บาท
5. งานประกวดราคาจ้างจัดทำระบบฐานข้อมูลสารสนเทศสำหรับการประเมินผลผลิตและผลลัพธ์ ผลกระทบของโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล จำนวน 1 งาน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล วงเงิน 7,190,000 บาท

ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางของ บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด แจ้งข้อมูลว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หรือภารกิจของแต่ละหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯ ได้ออกแบบและพัฒนาให้หน่วยงานราชการ และเอกชน หลายหน่วยงาน

มีกลุ่มลูกค้าสำคัญคือ กระทรวงการคลัง, กรมประมง, กองบังคับการตำรวจจราจร, สำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ, กรุงเทพมหานคร, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย, บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(BTS), บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (MRTA), กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น, บริษัท Siemens Limited ในโครงการ MRTA, บริษัท Singapore Technology Electronics (S.T.E), บริษัท Sumitomo Corporation (Japan) และอื่น ๆ เป็นต้น